วันนี้ 25 พฤศจิกายน 2564 เวลา พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผู้บังคับการตรวจสืบสวนภาค 4 ได้ควบคุมตัวชายวัยรุ่นอายุ 17 ปี ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนเข้าชิงทรัพย์ร้านทองกรีติ ภายในศูนย์การเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนภาค 4 เพื่อให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้ทำการสอบปากคำเพิ่มเติม หลังถูกตำรวจสืบสวนภาค 2 ร่วมกับตำรวจสืบสวนภาค 4 จับกุมตัวได้ที่ จ.ชลบุรี

พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสภ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า พฤติการณ์ของคนร้ายหลังก่อเหตุ คนร้ายได้หลบหนีออกจากห้างเซ็นทรัลฯ ผ่านถนนศรีจันทร์ มุ่งหน้า เข้าชุมชนศาลหลักเมือง ผ่านหน้าสถานีรถไฟขอนแก่น ผ่านตลาดผลไม้รถไฟ เข้าไปในบริเวณลานจอดแห่งหนึ่งในซอยวัดวุฒาราม และหายไป

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประชาสัมพันธ์ตำหนิรูปพรรณคนร้ายไปทุกช่องทาง โดยจัดชุดสายตรวจออนไลน์ ตามเฝ้าฟังข้อมูลทุกช่องทาง จนมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสเข้ามา จึงได้ไปทำการตรวจสอบบริเวณโคยรอบลานจอดรถแห่งหนึ่ง ในซอยวัดวุฒาราม พบสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนัก 3 บาท จำนวน 1 เส้น ตกอยู่ที่ลานจอดรถแห่งหนึ่งในชอยวัดวุฒาราม และบริเวณใกล้เคียงมีหอพักแห่งหนึ่ง ที่อยู่ใกล้บริเวณที่คนร้ายหายไป

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไม่พบเส้นทางการหลบหนีออกจากบริเวณหอพักดังกล่าว คาดว่าคนร้ายน่าจะเข้าไปหลบซ่อนตัว จึงได้เข้าตรวจสอบรายชื่อผู้เข้าพักหอพัก พบว่ามีชายต้องสงสัยคือ นายเอ นามสมมุติ อายุ 17 ปีได้มาเปีดห้องเช่ารายวันของหอพักดังกล่าว ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 และออกในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2564 ไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบ ก่อนพบว่าผู้ต้องสงสัยได้หลบหนีจากจังหวัดขอนแก่นไปพักอาศัยอยู่ที่ อ.เมือง จ.ชลบุรี ประกอบอาชีพรับจ้างบริษัทเอกชน แห่งหนึ่ง ต.คลอง 4 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อเจ้าหน้าที่ ได้เข้าตรวจสอบ นายเอ นามสมมุติ อายุ 17 ปี ให้การรับสารภาพว่าตนคือผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนชิงทองที่ห้างทองเช็นทรัลขอนแก่น เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 จริง พร้อมยึดทองคำของกลาง (สร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนัก 3 บาท จำนวน 4 เส้น) ที่ได้จากการชิงทรัพย์

โดยแรงจูงใจในการก่อเหตุเนื่องจากตนติดการพนันพนันออนไลน์ ต้องการนำเงินที่ได้จากการก่อเหตุ ไปเล่นการพนันและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน สำหรับของกลางที่ตรวจยึดได้ สร้อยข้อมือทองคำน้ำหนักก 4 บาท ยึดได้จากผู้ต้องหา สร้อยข้อมือน้ำหนัก 3 บาท ตรวจยึดได้ที่ลานจอดรถแห่งหนึ่งในซอยวัดวุฒาราม

โดยตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธปืนฯโดยกระทำด้วยประการใดอื่น เพื่อไม่ให้เป็นหรือจำหน้าได้, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ที่สาธารณะโดนไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนโดยไม่ใข่เหตุในเมือง ในหมู่บ้านฯ”