การวิ่ง เป็นการออกกำลังกายที่นิยมมากที่สุด นั่นเป็นเพราะเป็นกีฬาที่ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ในการเล่น และยังสามารถวิ่งได้ทั้งในร่ม ไม่ว่าจะเป็นฟิตเน็ต ที่บ้าน หรือจะออกไปวิ่งตามสถานที่ที่เหมาะสำหรับการวิ่ง ก็สะดวกสบาย และได้ประโยชน์เป็นอย่างมาก
แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว ก็มีคำแนะนำว่า การวิ่งที่ดีควรจะมีรองเท้าวิ่งที่เหมาะสมดีๆสักคู่ นอกจากจะช่วยให้วิ่งได้ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการวิ่งได้อีกด้วย โดยเฉพาะในผู้หญิงนั้น ที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ควรให้ความสำคัญกับการเลือกรองเท้าวิ่งมากกว่าผู้ชาย นั่นเพราะสรีระของผู้หญิงจะมีสะโพก มีอุ้งเชิงกรานที่กว้างกว่าผู้ชาย ทำให้มีแนวโน้มที่จะคว่ำเท้ามากกว่าผู้ชาย ซึ่งก่อให้เกิดแรงกดที่หัวเข่า รองเท้าของผู้หญิงจึงควรให้ความมั่นคงในบริเวณเท้าด้านใน เพื่อซัพพอร์ตลักษณะการคว่ำเท้าแบบนี้
ดังนั้นการเลือกรองเท้าเพื่อใช้วิ่งอย่างถูกต้อง เพราะเท้าเป็นศูนย์รวมของเส้นประสาทจำนวนมาก หากเลือกรองเท้าเพื่อใช้วิ่งอย่างไม่ถูกต้อง ก็อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้ มาดูเทคนิคการเลือกรองเท้าวิ่งด้วยตัวเองกัน
1.สถานที่ในการวิ่ง
ให้คำนึงถึงลักษณะของพื้นผิวว่า คุณวิ่งบนพื้นแบบใดบ่อยที่สุด ถ้าหากวิ่งบนพื้นคอนกรีตหรือพื้นยางมะตอย แรงกระแทกจะมีมากกว่าการวิ่งบนลู่วิ่งที่ยิม ดังนั้น ควรเลือกรองเท้าที่มีระบบรองรับแรงกระแทกที่ดี เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้
2.สังเกตรูปเท้าตัวเองว่าเป็นแบบใด
หากมีอุ้งเท้าแบน (คือส่วนเว้าของอุ้งเท้าไม่มากหรือแทบจะแนบไปกับพื้น) การวิ่งอาจมีลักษณะวิ่งแล้วเท้าบิดเข้าด้านใน จึงต้องเลือกรองเท้าที่มีเทคโนโลยีซัพพอร์ต พยุงข้างเท้าด้านใน ให้ความมั่นคงในการวิ่ง การวัดลักษณะเท้าตัวเองสามารถทำได้หลายวิธี เช่น ใช้ Footscan ซึ่งตามปกติร้านรองเท้าจะมีอุปกรณ์ชิ้นนี้อยู่แล้ว และการจุ่มเท้าลงไปในน้ำแล้ววางบนกระดาษเพื่อพิมพ์รอยเท้า
3.เวลาที่เหมาะสมในการเลือกซื้อรองเท้าและขนาดรองเท้า
เวลาที่เหมาะสมในการเลือกซื้อ รองเท้าคือช่วงบ่ายเนื่องจากเป็นช่วงที่เท้าขยายเต็มที่หลังจากผ่านกิจกรรมระหว่างวันมาแล้วและควรให้มีพื้นที่เหลือระหว่างปลายนิ้วเท้าและปลายรองเท้าข้างในประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร เพื่อรองรับการยืดขยายของเท้าในขณะวิ่ง
4.อายุการใช้งานของรองเท้าวิ่ง
เราจะใช้ระยะทางเป็นตัววัด เริ่มง่ายๆที่การสังเกตตัวเองในการวิ่งแต่ละครั้ง เช่น วิ่ง 5 กิโลเมตร 3 วันต่อสัปดาห์ ก็จะเท่ากับว่าใช้ไปแล้ว 15 กิโลเมตรต่อสัปดาห์ หรือเท่ากับ 60 กิโลเมตรต่อเดือน ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว อายุการใช้งานของรองเท้าวิ่งจะอยู่ที่ 500-900 กิโลเมตรโดยประมาณ
5.ทดลองสวมรองเท้าวิ่งด้วยตัวเอง
ไม่แนะนำให้ซื้อออนไลน์โดยอิงจากไซส์รองเท้าจากที่เคยใส่มาประจำ อันที่จริงแล้ว รองเท้าบางรุ่นอาจจะมีความคลาดเคลื่อนในเรื่องขนาดอันมาจากการออกแบบรวมถึงสรีระเท้าของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น ก่อนซื้อรองเท้าวิ่งจึงควรทดลองใส่ด้วยตัวเองมิฉะนั้น นอกจากจะเสียเงินแล้ว คุณอาจได้รองเท้าวิ่งที่ใส่ไม่สบายทำให้ประสิทธิภาพในการออกกำลังกายลดลงอีกด้วย