Toyota Motor ยุโรป ได้เปิดตัว All-New Toyota CH-R ซับคอมแพ็คครอสโอเวอร์เจนเนอเรชั่นที่ 2 ครั้งแรกของโลก ที่ได้รับการยกระดับทั้งบุคลิกใหม่ ฟีเจอร์อัจฉริยะที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายกับความปลอดภัยที่เหนือระดับ และขุมพลัง PHEV ใหม่ล่าสุด
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
- New Toyota Alphard & Vellfire แน่นด้วยฟีเจอร์ใหม่สุดล้ำ และมีรุ่น PHEV ในอนาคต
- New Toyota Corolla Altis ปรับสเปค จูนสมรรถนะใหม่ ฟีลให้สุด ทุกความรู้สึก
- New Toyota Yaris Cross จากยุโรปสู่อินโดนิเซีย จัดเต็มทั้งรุ่นเบนซิน และไฮบริด
ด้านบุคลิกภายนอกของ Toyota CH-R ได้รับการปรับปรุงรูปลักษณ์เล็กน้อยจาก C-HR Prologue Concept ที่เปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคมในปี 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งในโฉมใหม่นี้จะมอบบุคลิกที่สปอร์ตล้ำสมัย สวยงามลงตัวราวกับการผสมผสานระหว่า bZ4X และ Prius โฉมใหม่
หน้ารถมาพร้อมกับการดีไซน์ใหม่ด้วยรูปทรงของ “Hammerhead” ที่ให้ความดุดันยิ่งขึ้น, ไฟหน้า กับไฟเดย์ไลท์ LED ดีไซน์ใหม่ สำหรับส่วนท้ายนั้นได้เผยให้เห็นสปอยเลอร์ท้ายแยกฝั่งซ้ายขวาเหทือนโฉมแรก แต่หลังคาจะลาดท้ายน้อยลง แต่ส่วนท้ายร5จะยังคงยกชันเหมือนโฉมแรกอยู่ โดยที่ไฟท้าย LED ได้รับการดีไซน์ใหม่ และกันชนท้ายที่ดุดันกว่าเดิม รวมทั้งลูกค้าสามารถเลือกล้อใหญ่สุด 20 นิ้ว อีกด้วย
และมีการออกแบบมือจับเปิดประตูแบบ Pop Up ที่กลมกลืนไปกับตัวถังรถซึ่งช่วยทั้งอากาศพลศาสตร์ มอบบุคลิกที่ดูหรูล้ำ และใช้งานง่ายกว่าเดิม โดยเฉพาะการเปลี่ยนที่เปิดประตูด้านหลังใหม่นี้จะช่วยให้เด็กเปิดประตูง่ายขึ้น
ความน่าสนใจของโฉมนี้คือการเผยภาพภายในห้องโดยสารที่ปรับดีไซน์ใหม่ให้ดูสปอร์ต กว้างขวาง และล้ำสมัยยิ่งขึ้น โดดเด่นด้วยเรือนไมล์จอดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และจออินโฟเทนเมนต์ขนาดเริ่มต้น 8 นิ้ว รวมถึงยังได้รับไฟ Signature Lighting ใต้ท้องรถ, จอ Head up Display
ไฟสร้างบรรยากาศภายใน Ambient Lights ที่เลือกปรับได้สูงสุดถึง 64 เฉดสี และปรับโทนสีร้อน และโทนสีเย็นให้เข้ากับสภาพแวดล้อม และเวลา รวมถึงสามารถตั้งค่าไฟสร้างบรรยากาศเพื่อปรับสภาพอารมณ์ได้ถึง 24 สี ตั้งแต้โทนสีมอบความสดใสในช่วงเช้า และโทนสีผ่อนคลายในช่วงเย็น
Toyota Safety Sense รุ่นล่าสุดจะถูกนำมาใช้ใน All-New CH-R ทุกเกรดย่อย พร้อมการอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบแบบ OTA (Over-the-Air) นอกจากนี้ในบางเกรดจะได้รับ Proactive Driving Assist (PDA) ใหม่ ซึ่งลดความเร็วอย่างนุ่มนวลเมื่อปล่อยคันเร่งเมื่อเข้าใกล้รถที่ขับช้าหรือเข้าโค้ง พร้อมกับช่วยปรับแรงบังคับเลี้ยวให้เหมาะสมกับองศาทางโค้ง อีกทั้งยังได้รับระบบช่วยบังคับเลี้ยวใหม่ และระบบช่วยจอดรถระยะไกลผ่านการควบคุมด้วยสมาร์ทโฟน
ไฮไลท์สำคัญของ Toyota CH-R โฉมใหม่คือขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด PHEV ที่มีให้ตั้งแต่รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรกับมอเตอร์ไฟฟ้ารวม 220 แรงม้า ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ที่ 7.3 วินาที อีกทั้งทางโตโยต้ากล่าวว่าสามารถวิ่งได้ด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลถึง 66 กม./ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง สำหรับการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า แต่สิ่งที่น่าสนใจคือเทคโนโลยีดังกล่าวได้ใช้ระบบ Geofencing ซึ่งระบบจะทำงานก็ต่อเมื่อตัวรถเข้าสู่เขตชุมชน หรือเขตเมืองที่ปล่อยมลพิษต่ำ ระบบจะเปลี่ยนไปใช้โหมด EV โดยอัตโนมัติ
สำหรับขุมพลังไฮบริดจะมีให้เลือกทั้ง เครื่องยนต์ 1.8 ขับเคลื่อนล้อหน้า 140 แรงม้า ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ที่ 9.9 กับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 197 แรงม้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ แบบ All-paw ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ต่ำสุดที่ 7.9 วินาที
และเพื่อต้อนรับการมาของ All-New CH-R ได้มีการเปิดตัวรุ่นพิเศษ Premier Edition ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ “GR SPORT Premier Edition” เพิ่มรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ตะแกรงกระจังหน้าสีดำ, ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว, ตรา GR, ชิ้นส่วนตกแต่งสีดำ Liquid Black ที่คอนโซลกลาง และเบาะนั่งด้านหน้าแบบสปอร์ตพร้อมโลโก้ GR
และ High Premier Edition มาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอกด้วยสีทูโทนกำมะถันอันโดดเด่น (แต่มีสีอื่นให้ลูกค้าเลือกเพิ่มเติม) เบาะหนังพร้อมการเย็บด้วยด้ายสีเหลืองกำมะถัน หน้าจอ Head up Display หลังคาแบบพาโนรามา เป็นต้น
สำหรับราคา All-New Toyota CH-R นั้นจะเปิดเผยในเร็ว ๆ นี้ โดยคาดการณ์ว่าจะเริ่มต้นที่ 35,000 ยูโร หรือราว ๆ 1.34 ล้านบาท
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com
