หลังจากเปิดตัว MINI Cooper SE Convertible รถยนต์ไฟฟ้า 100% ในรูปแบบตัวถังเปิดประทุนในรูปแบบรถคอนเซ็ปต์เมื่อปีที่ผ่านมา ในเวลานี้ทาง MINI ประกาศจำหน่ายลอตแรกในยุโรปในจำนวนจำกัดเพียง 999 คัน โดยจะประกาศราคาในเดือนเมษายนนี้
โดย MINI Cooper SE Convertible จะมีสองสีตัวถังให้เลือก ได้แก่ สีดำ Enigmatic Black กับสีขาว White Silver พร้อมหลังคาผ้าใบสีดำ และการตกแต่งด้วยชิ้นส่วนสีบรอนซ์ Resolute Bronze บริเวณมือจับประตู, กระจังหน้า, กรอบไฟหน้า และไฟท้าย เป็นต้น รวมถึงล้ออัลลอย 17 นิ้ว 2 โทนสีดำ และสีเงิน นอกจากนี้ยังได้รับตรา E logo ที่บ่งบอกความเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่โดดเด่น
สำหรับหลังคาผ้าใบสีดำ ยังมาพร้อมลวดลายยูเนี่ยนแจ็คอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ และมาพร้อมระบบควบคุมกลไกด้วยไฟฟ้าที่สามารถกางและหุบได้ในความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม.
สำหรับภายในจะนำเสนอโทนสีดำที่แ๙มด้วยชิ้นส่วนสีเหลือง, ตรา E logo ตรงพวงมาลัย และแผ่นรองธรณีประตูที่มาพร้อมเลขลำดับการผลิต และฟีเจอร์ eDrive service เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ขับขี่ เช่น การใช้พลังงานในปัจจุบัน ระยะการขับขี่ และเคล็ดลับในการขับขี่อย่างประหยัด โดยจะแสดงข้อมูลบนจอ Head-Up Display
MINI Cooper SE Convertible มาพร้อมขนาดตัวถังยาว x กว้าง x สูง ที่ 3,850 x 1,727 x 1,427 มม. ระยะฐานล้อ 2,495 มม. รวมถึงพื้นที่สัมภาระท้ายความจุ 160 ลิตร
สำหรับขุมพลังจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 184 แรงม้า กับแบตเตอรี่ขนาด 32.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง แต่ด้วยน้ำหนักที่มากขึ้น ทำให้อัตราเร่งจาก 100 กม./ชม. ได้ภายใน 8.2 วินาที จากข้อมูลรถคอนเซ็ปเดิมที่ทำได้ราว ๆ 7.7 วินาที และวิ่งได้ไกลเพียง 201 กม./ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (WLTP) หรือน้อยกว่าที่ประเมินไว้จากเดิม 230 กม./ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
Stefanie Wurst ซีอีโอแบรนด์ MINI กล่าวว่า “เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เราได้เปิดตัว MINI Cooper SE ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด และวันนี้ 1 ใน 5 ของ MINI ที่ขายในยุโรปเป็น MINI ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด ด้วยความสำเร็จนี้กระตุ้นให้เราเปิดตัว MINI Cooper SE Convertible ภายในไม่กี่เดือน ผมดีใจที่เราสามารถนำเสนอรถโกคาร์ทหลังคาเปิดประทุนที่พิเศษสุดให้กับลูกค้าในจำนวน 999 คัน”
เครดิตข้อมูลจาก car.watch.impress.co.jp
