คัดลอก URL แล้ว

อยากได้รถมาใช้แต่ติด ‘เครดิตบูโร – แบล็คลิสต์’ ถ้าจะออกรถทำได้หรือไม่?

รถใหม่คันนี้ราคาไม่แรงน่าซื้อ หรือแม้แต่รถมือสองราคาดีอยากจะจัดสักคัน แต่ทว่าตัวคุณเองดันติดเครดิตบูโร หรือ ติดแบล็คลิสต์จากสถาบันทางการเงิน หรือสินเชื่อ จนทำให้คุณต้องคิดทบทวนหนักขึ้นกว่าเดิมว่าถ้าติดขัดตรงส่วนนี้ จะสามารถออกรถได้หรือไม่ ในวันนี้จะมาไขคำตอบกัน

ติดเครดิตบูโร และติดแบล็คลิสต์ ต่างกันอย่างไร

เครดิตบูโร หากลูกค้าทำบัตรเครดิต หรือทำเรื่องสินเชื่อกู้เงินต่าง ๆ คุณก็จะมีรายชื่อในเครดิตบูโร ซึ่งจะทำหน้าที่ในการบันทึกประวัติการชำระหนี้ของลูกค้ากับทางสถาบันการเงินต่างๆ โดยคุณสามารถเช็คได้จากบริษัทเครดิตแห่งชาติ โดยข้อมูลเครดิตบูโรนี้จะมีความสำคัญอย่างมากในการพิจารณาทำสินเชื่อกู้ซื้อรถ หรือแม้แต่ซื้ออสังหาริมทรัพย์

ติดแบล็คลิสท์ หากลูกค้าที่ผิดนัดการชำระกับสถาบันทางการเงินต่าง ๆ เกิน 90 วัน ก็จะติดสถานะแบล็คลิสท์ ส่งผลให้ลูกค้าไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินบางรายการเช่น เช่น สินเชื่อบ้านหรือรถกับสถาบันทางการเงินต่าง ๆ ได้ รวมถึงหากลูกค้าชำระหนี้สินหมดแล้ว แต่ประวัติแบล็คลิสท์จะยังคงอยู่ถึง 3 ปี จึงจะสามารถทำธุรกรรมทางการเงินตามปกติได้

หากลูกค้าติดเครดิตบูโร แต่มีประวัติการชำระเงินที่ดีจนไม่ติดแบล็คลิสท์ ก็จะมีประโยชน์อย่างมากในการขอสินเชื่อออกรถ หากมีข้อมูลเครดิตบูโรที่ตรวจสอบได้อย่างชัดเจน ก็จะช่วยให้พิจารณาขอสินเชื่อออกรถผ่านได้ง่ายกว่าลูกค้าที่ไม่มีข้อมูลเครดิตบูโร

แต่สิ่งที่ต้องกังวลที่สุดคือหากลูกค้าเช็คเครดิตบูโรแล้วติดสถานะแบล็คลิสท์ โอกาสที่จะขอสินเชื่อออกรถให้ผ่านเป็นไปไปได้ยากยิ่งขึ้น และถึงแม้จะชำระหนี้หมดแล้ว ก็ยังมีโอกาสผ่านยากเพราะยังไม่เคลียร์ประวัติเสียจนกว่าจะครบกำหนด 3 ปี

เครดิตภาพประกอบจาก freepik.com

หากจะซื้อรถแม้ติดแบล็คลิสท์

แม้คุณจะติดแบล็คลิสท์ในเครดิตบูโร แต่คุณก็สามารถออกรถได้ด้วยการเตรียมเอกสารสำคัญ อาทิ หนังสือรับรองเงินเดือน หรือสลิปเงินเดือน, เอกสารเดินบัญชีของทางธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน พร้อมกับต้องมีผู้ค้ำประกันเป็นเจ้าบ้าน 1 คน ที่มีประวัติเครดิตดี แต่หากเป็นเจ้าของกิจการจะต้องเตรียมเอกสารทะเบียนการค้า, หนังสือเช่าพื้นที่, ใบเสร็จเช่าพื้นที่ เป็นต้น

แต่จะต้องวางเงินดาวน์ที่สูงตั้งแต่ 25 – 30% (หรือบางแห่งอาจสูงถึง 40%) จากเดิมจะสามารถวางเงินดาวน์แค่ 5 – 10% เท่านั้น หรือรับสิทธิ์ฟรีดาวน์ก็ยังได้ ส่งผลให้ลูกค้าที่จะซื้อรถต้องเตรียมเงินดาวน์ที่มากขึ้น แต่จะมีข้อดีตรงที่จะได้ยอดจัดที่ลดลง และส่งผลให้ยอดผ่อนรถแต่ละเดือนลดลงด้วย

ในกรณีที่ลูกค้ามีประวัติเครดิตไม่ดี และไม่มีงบดาวน์มาก สามารถให้ผู้อื่นทำเช่าซื้อรถแทน โดยให้เจ้าของรถตัวจริงที่ติดแบล็คลิสต์เป็นคนกู้ร่วม หรือคนค้ำก็ได้เช่นกัน หากผู้ซื้อแทนมีเครดิตดี ก็จะได้สิทธิ์ฟรีดาวน์ได้

ในกรณีที่ลูกค้าชำระหนี้สินแล้ว แต่ยังติดสถานะแบล็คลิสท์อยู่ แม้อาจจะขอสินเชื่อไม่ผ่านสูงอยู่ แต่ถ้าบางสถาบันทางการเงินให้ผ่านได้ ก็อาจจะไม่ได้เงินเต็มจำนวน เช่น อาจจะกู้ได้แค่ 80% จากราคารถที่ต้องการ


แม้ว่าลูกค้าจะต้องติดแบล็คลิสต์จนทำให้การขอสินเชื่อเพื่อซื้อรถเป็นไปได้ยาก แต่่ก็ยังมีทางออกที่หลากหลายเพื่อให้การซื้อรถทำได้ไม่ยาก แต่สิ่งสำคัญที่สุดก่อนซื้อรถยนต์ด้วยการผ่อนหรือขอสินเชื่อ ควรเคลียร์หนี้สินให้หมด และเตรียมวงเงินจำนวนหนึ่งในการดาวน์รถ เพราะจะช่วยให้การผ่อนทำได้ง่าย และสบายใจยิ่งขึ้น


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง