Hyundai Motor เปิดตัว All-New Hyundai Ioniq 6 รถยนต์ไฟฟ้าทรงลาดท้ายสี่ประตูที่สะท้อนความโฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย เพียบพร้อมไปด้วยขุมพลังไฟฟ้าที่ทรงพลังทั้งสมรรถนะและระยะทาง ควบคู่กับฟีเจอร์เด่น ๆ ที่แฟน ๆ รถยนต์ไฟฟ้าไม่ควรพลาด
ดีไซน์ภายนอกเรียบล้ำ พร้อมหลักอากาศพลศาสตร์ที่สมบูรณ์แบบ
เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม E-GMP เช่นเดียวกับ Ioniq 5 และ Kia EV6 รวมถึง Ioniq 7 ที่ถูกห่อหุ้มด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายสะอาดตา และรูปทรงตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่นักออกแบบของ Hyundai เรียกว่าประสิทธิภาพทางอารมณ์ และยังสะท้อนถึงบุคลิกอันโดดเด่นของซีรี่ย์ Ioniq อีกด้วย
แม้จะเป็นรถซีดาน 4 ประตู แต่หลังคาได้รับการออกแบบให้ลาดท้ายสไตล์คูเป้ โดดเด่นด้วยลายเส้นสายงามไม่ขาดตอน, มือจับเปิดประตูแบบ Pop-up สไตล์รถหรู แต่ยังเอื้อให้สามารถควบคุมทิศทางการไหลของอากาศ เช่นเดียวกับตัวควบคุมการไหลของอากาศด้านหน้าอย่าง Active air flaps, ระบบลดช่องว่างของล้อ, ส่วนท้ายที่ออกแบบคล้ายเรือ พร้อมสปอยเลอร์, ระบบแอโรไดนามิกใต้ท้องรถ และกล้อมองข้าง (สำหรับตลาดบางประเทศ)
ด้วยการออกแบบตัวถังทั้งหมด ให้ค่าสัมประสิทธิ์ต้านทานอากาศที่ต่ำสุดถึง 0.21 Cd
สำหรับมิติตัวถัง ประกอบด้วยความยาว 4,855 มม. กว้าง 1,880 มม. และสูง 1,495 มม. มีระยะฐานล้อยาว 2,950 มม.
ภายในเรียบล้ำ เปี่ยมไปด้วยลูกเล่น และความผ่อนคลาย
เมื่อเปิดประตูเข้าสู่ภายในห้องโดยสาร จะพบกับแผงเรือนไมล์สไตล์เฟอร์นิเจอร์ ด้วยจอเรือนไมล์ 12 นิ้ว และจออินโฟเทนเมนต์ 12 นิ้ว แบบลอย ที่ได้รับการหุ้มกรอบลงตัวไปกับแผงคอนโซลหน้า พร้อมระบบเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay กับฟีเจอร์แผนที่เดินทางแบบเรียลไทม์ตามระดับแบตเตอรี่ปัจจุบันของรถ ที่จะช่วยคำนวณเส้นทางตามปริมาณแบตเตอรี่ที่มี รวมถึงการค้นหาสถานีชาร์จที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละสถานการณ์
การตกแต่งภายในจะมาพร้อมกับไฟ Ambient Light จากท่อไฟ LED และชิ้นส่วนโปร่งใส เพื่อสร้างบรรยากาศภายในให้เหมือนผับ และระบบ Dual Color Ambient Lighting มีธีมที่เลือกไว้ล่วงหน้าหกแบบ และ 64 สีที่แตกต่างกัน และเทคโนโลยีควบคุมแสงแปรผันตามความเร็ว Speed Sync Lighting ซึ่งเพิ่มความสว่างของแสงภายในรถเมื่อคุณขับขี่ด้วยความเร็วสูง
ทีมวิศวกรได้ออกแบบแผงคอนโซลกลาง “แบบสะพาน” ซึ่งจะมีช่องว่างด้านล่างให้คุณสามารถวางแลปท็อป เอกสาร แก้วน้ำ หรือกระเป๋าได้ รวมถึงออพชั่นติดตั้งโต๊ะอัจฉริยะ สำหรับใช้ทำงานภายในรถได้ด้วย เพื่อที่จะมอบภายในเป็นห้องทำงานที่เคลื่อนที่ได้
เบาะนั่งเองก็ได้รับการออกแบบให้บางลง 30% เพื่อเพิ่มพื้นที่ภายใน และลดการใช้วัสดุตกแต่ง แต่จะไม่สูญเสียความสะดวกสบายเลย นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเลือกใช้เบาะนั่ง Relaxation Comfort ที่มีฟีเจอร์ปรับตำแหน่งเบาะที่ให้ความผ่อนคลาย และเหมาะสมตามหลักสรีระสูงสุดโดยอัตโนมัติ สำหรับการนั่งพัก หรืองีบหลับขณะรอชาร์จไฟฟ้า
และเพื่อขานรับเทรนด์รักษ์โลก เบาะผ้าและวัสดุบุหลังคาทำจากพลาสติก PET รีไซเคิล รวมถึงวัสดุหนังที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ไฮไลท์อื่น ๆ ได้แก่ สวิตช์เกียร์เรียบง่าย, ชุดเครื่องเสียงจาก Bose พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง และไฟพิกเซลแบบโต้ตอบ 4 ดวงบนพวงมาลัย ซึ่งสามารถถ่ายทอดข้อมูลการชาร์จได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงระบบเพิ่มคุณภาพเสียงที่ให้ “เสียงที่เหมือนยานอวกาศ” ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามการขับขี่ของคุณ
ขุมพลังไฟฟ้าที่คุณเลือกได้ และชาร์จได้เร็วดั่งใจด้วยออนบอร์ด 800V
ระบบขับเคลื่อนของ Hyundai Ioniq 6 จะมีให้เลือกทั้งขับเคลื่อนล้อหลัง แม้ไม่ได้ระบุตัวเลขสมรรถนะ แต่คาดว่าจะอยู่ราว ๆ 218 แรงม้า (PS) กับรุ่นขับสี่ล้อจากมอเตอร์คู่ สมรรถนะสูงสุด 325 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 605 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 5.1 วินาที
หัวใจสำคัญของรุ่นนี้คือแบตเตอรี่ ที่จะมีให้เลือกทั้งความจุ 53 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยมีข้อมูลเผยว่า เมื่อจับคู่กับรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังจะมีการใช้พลังงานน้อยกว่า 14 กิโลวัตต์ชั่วโมง /100 กม. (WLTP) สิ่งนี้ทำให้ Ioniq 6 เป็นหนึ่งใน EV ที่ประหยัดพลังงานที่สุดในตลาด
กับแบตเตอรี่ความจุ 77.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระบุว่าจะวิ่งได้ไกลถึง 610 กม. (WLTP) ซึ่งทำได้ดีกว่า Ioniq 5 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านั้น
ทุกรุ่นมีออนบอร์ดที่รองรับการชาร์จได้ตั้งแต่ 400V และสามารถรองรับสูงสุด 800V ซึ่งทำให้เวลาที่ Ioniq 6 นำไปชาร์จผ่านสถานีชาร์จไฟฟ้าแบบ DC 350 kW จะใช้เวลาในการชาร์จจาก 10-80% เพียง 18 นาที และยังมีฟีเจอร์สำหรับพ่วงจ่ายไฟฟ้าแก่อุปกรณ์ภายนอกได้
และเพื่อเอาใจสายซิ่ง หรือมีสไตล์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร ตัวรถมาพร้อมระบบ EV Performance Tune-up ที่ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่า ปรับแรงบังคับเลี้ยว, กำลังมอเตอร์, ความไวของแป้นคันเร่งและโหมดขับเคลื่อนได้อย่างอิสระผ่านจออินโฟเทนเมนต์
เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือขับขี่อัจฉริยะรอบด้าน
ด้านเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ และระบบความปลอดภัยใน Hyundai Ioniq 6 จะได้รับทั้งระบบ Smart Cruise Control, ระบบช่วยขับขี่บนทางหลวง และระบบเบรกฉุกเฉินป้องกันการชนด้านหน้า, ระบบช่วยจำกัดความเร็วอัจฉริยะ, ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ, และระบบหักพวงมาลัยอัตโนมัติ
รวมถึงได้รับระบบตรวจจับและแจ้งเตือนจุดบอดรอบด้าน, ระบบป้องกันผู้โดยสารออกจากรถ และระบบช่วยจอดรถ Remote Smart Parking Assist 2 ระบบเบรกฉุกเฉินป้องกันการชนด้านหลังรถ เป็นต้น
Hyundai Ioniq 6 จะเข้าสู่การผลิตในไตรมาสที่สาม และจะวางจำหน่ายภายในสิ้นปีนี้ โดยจะจำหน่ายในบางประเทศเท่านั้น
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com