มัมมี่ ทุกร่าง โดยปกติที่ค้นพบมักจะอยู่ใน ท่านอนที่สงบนิ่ง แต่มีมัมมี่อยู่หนึ่งร่างที่มีใบหน้าที่แสดงถึงความเจ็บปวด ด้วยการอ้าปาก และถูกเรียกชื่อว่าเป็น “Screaming Mummy” ซึ่งในเคสนี้สร้างความประหลาดใจให้กับนักวิทยาศาสตร์ และนักโบราณคดีเป็นอย่างมาก และผู้เชี่ยวชาญได้ทำการไขปริศนาในเคสนี้ได้สำเร็จแล้ว ว่าเป็นเพราะอะไรมัมมี่ถึงได้อ้าปาก
ร่างของ มัมมี่อ้าปาก ถูกพบครั้งแรกเมื่อปี 2429 ที่สุสานเดอีร์ เอล-บาฮารี ในประเทศอียิปต์ จากนั้นผู้เชี่ยวชาญใช้เวลาหลายปีในการไขปริศนา ซึ่งเหล่านักวิชาการทั้งหลายก็ได้ช่วยกันไขปริศนาจนสำเร็จ สรุปออกมาได้ 3 ประเด็น ดังนี้
มัมมี่ร่างนี้คือใคร?
ผลการตรวจดีเอนเอ ยืนยันว่ามัมมี่ร่างนี้เป็นร่างของ เจ้าชายเพนเตเวเร บุตรชายของกษัตริย์ฟาโรห์ รามเสสที่สาม
ภาพ : ancient-origins
จุดที่พบมัมมี่อ้าปาก ร่างถูกคลุมด้วยหนังแกะ
นักวิชาการได้พบมัมมี่ร่างนี้ในลักษณะที่ถูกคลุมด้วยหนังแกะ ในสมัยอียิปต์โบราณ การที่เอาหนังแกะมาคลุมมัมมี่ไว้ นั่นแสดงว่า คนนั้นเป็นคนที่ไม่บริสุทธิ์ เพราะตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ทำสิ่งที่ชั่วร้ายเอาไว้ นอกจากนี้จุดที่พบมัมมี่ของเจ้าชายเพนเตเวเรนั้น ไม่มีป้ายหลุมศพ และยังพบว่ามือและเท้าถูกมัดเอาไว้ ที่สำคัญคือไม่ได้ถูกทำมัมมี่ตามวิธีขั้นตอนที่ถูกต้อง แต่เป็นการทิ้งให้ศพแห้งในแร่เนทรอน (natron) และปากที่อ้าค้างไว้แบบนั้นก็ได้ทำการกรอกน้ำมันยางลงไป แต่ร่างนั้นก็ยังถูกฝังไว้ใกล้ ๆ กับหลุมศพของราชวงศ์คนอื่น ๆ
ทำไมถึงมีใบหน้าอ้าปากที่ดูทุกข์ทรมาน?
สาเหตุของการสิ้นพระชนม์มาจาก การลอบสังหารพ่อที่เป็นกษัตริย์ และหวังจะขึ้นครองราชย์แทน แต่แผนการล้มเหลว ก่อนหน้านี้นักโบราณคดีเชื่อว่าเจ้าชายองค์นี้แขวนคอตัวเองหลังจากที่แผนการไม่เป็นไปอย่างที่คิด แต่อีกทฤษฏีหนึ่งเชื่อว่าเจ้าชายถูกลงโทษประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ
ข้อมูลจาก: huffingtonpost
