
กรมประมงยืนยันตัวเลขเต่าตายจากอุทกภัยสตูลไม่ถึง 5,000 ตัว พร้อมเผยแผนฟื้นฟู 3 ระยะ ทั้งการสำรวจตัวเลขจริง การรวบรวมพ่อแม่พันธุ์ และเตรียมบ่อสำรองรับมือภัยอนาคต ขอความร่วมมือชุมชนช่วยแจ้งเต่าหลงทาง
กรมประมงออกชี้แจงข้อมูลที่ระบุว่าเต่ากว่า 5,000 ตัวในศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสตูลเสียชีวิตจากอุทกภัย เป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยพบว่าน้ำท่วมสูงกว่า 2.2 เมตรรวดเร็วที่สุดในรอบ 50 ปี ทำให้บ่อเพาะเลี้ยงหลายจุดเสียหาย เต่าหลุดออกจากบ่อและบางส่วนถูกกระแสน้ำเชี่ยวพัดติดตะแกรงจนไม่สามารถขึ้นมาหายใจได้ โดยข้อมูลตรวจนับ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ระบุว่า ก่อนน้ำท่วมมีเต่าทั้งหมด 1,789 ตัว พบซาก 189 ซาก และหลังน้ำลดพบเต่ารอดชีวิต 271 ตัว ซากเพิ่มอีก 23 ซาก ส่วนที่เหลือยังอยู่ระหว่างสำรวจในบ่อที่น้ำยังท่วมขัง
ศูนย์ฯ ระบุว่าได้ดำเนินมาตรการรับมือก่อนน้ำท่วม ทั้งการอพยพสัตว์น้ำ การป้องกันสัตว์หลุดรอด และการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ขึ้นที่สูง แต่ระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นเฉียบพลันทำให้บ่อปูนและโครงสร้างหลายส่วนเสียหายรุนแรง ทั้งนี้หน่วยงานในสังกัดกรมประมงพื้นที่สตูลได้รับผลกระทบหลายจุด ตั้งแต่บ้านพักเจ้าหน้าที่ รั้วสำนักงาน จนถึงโรงเพาะฟักและห้องปฏิบัติการที่ใช้เพาะพันธุ์เต่า
สำหรับมาตรการฟื้นฟู กำหนดไว้ 3 ระยะ ประกอบด้วยการสำรวจเต่าที่รอดชีวิต ตรวจนับซาก และติดตามเต่าที่หลุดลอด โดยขอความร่วมมือชุมชนแจ้งเมื่อพบเต่าหลงทาง พร้อมจัดทีมสำรวจรอบคลองละงูต่อเนื่อง 1 ปี จากนั้นจะรวบรวมพ่อแม่พันธุ์ทั้งจากบ่อเดิมและตัวที่พบในธรรมชาติกลับมาเพาะขยาย ซึ่งเต่าให้ไข่เพียงปีละครั้ง จึงคาดว่าจะใช้เวลา 3–4 ปีประชากรจึงจะกลับสู่ระดับเดิม และในระยะยาวจะสร้างบ่อสำรองสำหรับเคลื่อนย้ายฉุกเฉินเพื่อรองรับอุทกภัยในอนาคต
กรมประมงย้ำว่าจะเดินหน้าฟื้นฟูประชากรเต่าอย่างเต็มกำลัง พร้อมร่วมมือกับชุมชนและภาคีในพื้นที่เพื่อปกป้องทรัพยากรเต่าในจังหวัดสตูลอย่างยั่งยืน พร้อมให้ประชาชนที่พบเต่าหลงทางแจ้งศูนย์ฯ เพื่อนำกลับคืนสู่การดูแลอย่างถูกต้องตามกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่า