ประชาชนชาวฟิลิปปินส์หลายหมื่นคนได้ออกมารวมตัวกันบนถนนสายสำคัญในกรุงมะนิลาและเมืองใหญ่อื่นๆ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อประท้วงต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันครั้งใหญ่ของรัฐบาล การชุมนุมครั้งนี้เกิดขึ้นในวันครบรอบ 53 ปีของการประกาศกฎอัยการศึกโดยอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ซีเนียร์ บิดาของผู้นำคนปัจจุบัน ซึ่งแม้การชุมนุมส่วนใหญ่จะเป็นไปอย่างสงบ แต่ก็เกิดเหตุการณ์ปะทะรุนแรงขึ้นใกล้ทำเนียบประธานาธิบดี ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและถูกจับกุมจำนวนหนึ่ง
การปะทะใกล้ทำเนียบ
ในช่วงเย็นของวันอาทิตย์ สถานการณ์ได้ทวีความตึงเครียดขึ้นเมื่อกลุ่มผู้ประท้วงหัวรุนแรงประมาณ 100 คน พยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจเพื่อมุ่งหน้าไปยังทำเนียบประธานาธิบดีมาลากันยัง ผู้ประท้วงได้ขว้างปาก้อนหิน ขวดน้ำ และระเบิดเพลิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ ส่งผลให้ตำรวจต้องใช้โล่และกระบองเข้าควบคุมสถานการณ์ เหตุปะทะดังกล่าวทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บประมาณ 70 นาย และมีผู้ประท้วงถูกจับกุม 49 คน ในขณะที่การชุมนุมในจุดอื่นๆ เช่น ที่อนุสาวรีย์พลังประชาชน (People Power Monument) ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเกือบ 50,000 คน เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย
ความโกรธแค้นจาก “โครงการผี”
การประท้วงครั้งใหญ่มีชนวนเหตุมาจากความโกรธแค้นของประชาชนต่อกรณีอื้อฉาวเรื่องการทุจริตใน โครงการป้องกันน้ำท่วม ซึ่งประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ “บงบง” มาร์กอส จูเนียร์ ได้เปิดเผยเรื่องนี้ด้วยตนเองระหว่างการแถลงนโยบายประจำปีเมื่อเดือนกรกฎาคม เขาระบุว่ามี “โครงการผี” (ghost projects) เกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งเป็นการเบิกจ่ายงบประมาณโดยไม่มีการก่อสร้างจริง ความไม่พอใจของสาธารณชนยิ่งถูกโหมกระพือขึ้นหลังจากเจ้าของบริษัทก่อสร้างที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แสดงความร่ำรวยด้วยการโพสต์ภาพรถหรูจำนวนมากบนโซเชียลมีเดีย
การชุมนุมในวันที่ 21 กันยายนจึงเต็มไปด้วยความหมายเชิงสัญลักษณ์ ผู้ประท้วงจำนวนมากชูป้ายข้อความที่เชื่อมโยงการคอร์รัปชันในปัจจุบันเข้ากับยุคมืดของกฎอัยการศึกในอดีต โดยผู้ปราศรัยหลายคนได้กล่าวโจมตีประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ ว่าล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาการทุจริตที่ฝังรากลึก และบริหารประเทศไม่ต่างจากยุคของบิดา
