รัฐบาลทรัมป์ยกเลิกรายงานความหิวโหย ฝ่ายค้านกังวล ไม่มีรายงาน ไม่ใช่ไม่มีผู้หิวโหย

รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศยุติการจัดทำรายงานความมั่นคงทางอาหารระดับครัวเรือน (Household Food Security Report) ประจำปี ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้วัดระดับความหิวโหยในสหรัฐอเมริกามานานเกือบสามทศวรรษ การตัดสินใจครั้งนี้ได้จุดชนวนให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยหลายฝ่ายมองว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อปกปิดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดลดงบประมาณช่วยเหลือด้านอาหารครั้งใหญ่ที่เพิ่งผ่านกฎหมายไปไม่นาน

กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ (USDA) ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ระบุว่ารายงานฉบับปี 2024 ที่กำลังจะเผยแพร่ในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ จะเป็นฉบับสุดท้าย โดยให้เหตุผลว่ารายงานดังกล่าว “ถูกทำให้เป็นการเมืองมากเกินไป” (overly politicized) และเต็มไปด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง (rife with inaccuracies) นอกจากนี้ยังชี้ว่าคำถามที่ใช้ในการสำรวจเป็นเพียงอัตวิสัย ไม่ได้สะท้อนภาพความมั่นคงทางอาหารที่แท้จริง และเป็นการสร้างเรื่องราวที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตภายใต้รัฐบาลทรัมป์

อย่างไรก็ตาม การประกาศยกเลิกรายงานดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่น่าสังเกต คือประมาณสองเดือนครึ่งหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในกฎหมายตัดลดงบประมาณโครงการช่วยเหลือด้านอาหาร (SNAP) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ฟู้ดแสตมป์” ซึ่งสำนักงบประมาณรัฐสภาคาดการณ์ว่าจะทำให้ประชาชนราว 3 ล้านคนต้องสูญเสียสิทธิ์ในการรับความช่วยเหลือนี้ไป

นักวิจารณ์และกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยมองว่าการกระทำของรัฐบาลเป็นการจงใจทำให้การวัดผลกระทบจากนโยบายดังกล่าวทำได้ยากขึ้น บ็อบบี้ โคแกน จากศูนย์เพื่อความก้าวหน้าของอเมริกา (Center for American Progress) ซึ่งเป็นองค์กรคลังสมองฝ่ายซ้าย กล่าวผ่านโซเชียลมีเดียว่า “ทรัมป์กำลังยกเลิกแบบสำรวจที่วัดความหิวโหยในอเมริกา เพื่อไม่ให้มันแสดงให้เห็นว่าความหิวโหยจะเพิ่มขึ้นในสมัยของเขา” เขายังเปรียบเทียบว่าการกระทำเช่นนี้ไม่ต่างจากแนวทางปฏิบัติของรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ที่มักจะยกเลิกหรือบิดเบือนรายงานที่อาจนำเสนอข่าวในแง่ลบ

สำหรับรายงานความมั่นคงทางอาหารระดับครัวเรือน (Household Food Security Report) นั้น เป็นแบบสำรวจประจำปีที่จัดทำโดยกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ เพื่อประเมินความสามารถของครัวเรือนในการเข้าถึงอาหารที่เพียงพอต่อการมีสุขภาพที่ดี รายงานนี้ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการติดตามแนวโน้มความหิวโหยและความไม่มั่นคงทางอาหารในระดับประเทศและระดับรัฐ ซึ่งข้อมูลที่ได้จะถูกนำไปใช้ในการกำหนดนโยบายและจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการให้ความช่วยเหลือต่างๆ การยกเลิกรายงานนี้จึงอาจส่งผลกระทบต่อการวางแผนแก้ไขปัญหาความยากจนและความหิวโหยในระยะยาว

การตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์ครั้งนี้ จึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงครั้งใหญ่ระหว่างมุมมองของฝ่ายบริหารที่อ้างเรื่องความถูกต้องของข้อมูลและความเป็นการเมือง กับฝ่ายนักวิชาการและนักเคลื่อนไหวที่กังวลว่าการกระทำดังกล่าวจะทำให้ปัญหาความหิวโหยในประเทศถูกซ่อนไว้ใต้พรม และทำให้การช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้นในอนาคต