คัดลอก URL แล้ว
ฝรั่งเศสเป็นอัมพาต สหภาพแรงงานผนึกกำลังหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่ต้านรัฐบาล

ฝรั่งเศสเป็นอัมพาต สหภาพแรงงานผนึกกำลังหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่ต้านรัฐบาล

ประเทศฝรั่งเศสเผชิญกับการหยุดชะงักครั้งใหญ่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังสหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดหลายแห่งของประเทศได้จัดการนัดหยุดงานประท้วงทั่วประเทศ เพื่อแสดงพลังต่อต้านแผนการตัดลดงบประมาณและนโยบายรัดเข็มขัดของรัฐบาล การประท้วงครั้งนี้ถือเป็นการรวมตัวครั้งสำคัญที่สุดนับตั้งแต่การประท้วงเรื่องการปฏิรูปเงินบำนาญเมื่อสองปีก่อน และเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง

สถานการณ์ล่าสุด: การปะทะ-หยุดชะงักทั่วประเทศ

การประท้วงที่จัดขึ้นกว่า 250 จุดทั่วประเทศ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายภาคส่วน โรงเรียนหลายแห่งต้องปิดทำการเนื่องจากครูเข้าร่วมการประท้วง ระบบขนส่งสาธารณะแทบจะเป็นอัมพาต โดยเฉพาะรถไฟและรถประจำทางที่หยุดให้บริการหรือลดเที่ยววิ่งลงอย่างมาก แม้การเดินขบวนส่วนใหญ่จะเป็นไปอย่างสงบ แต่ในหลายเมืองใหญ่ เช่น ปารีส, น็องต์ และลียง ได้เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงบางกลุ่มกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาเพื่อควบคุมสถานการณ์ มีรายงานการจับกุมผู้ประท้วงอย่างน้อย 181 คนทั่วประเทศ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 11 นาย

ที่มาของสถานการณ์: ความไม่พอใจต่อนโยบายรัดเข็มขัด

ชนวนเหตุสำคัญของการประท้วงครั้งนี้มาจากความไม่พอใจของประชาชนและสหภาพแรงงานต่อแผนงบประมาณปี 2026 ของรัฐบาล ซึ่งมีมาตรการรัดเข็มขัดและการตัดลดงบประมาณมูลค่ากว่า 44,000 ล้านยูโร สหภาพแรงงานมองว่านโยบายเหล่านี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อค่าจ้าง, ความมั่นคงในการทำงาน และคุณภาพของบริการสาธารณะ เช่น การศึกษาและการสาธารณสุข

โซฟี บีเนต์ ผู้นำสหภาพแรงงาน CGT ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำหลัก กล่าวว่า “ความโกรธแค้นนั้นมีอยู่มหาศาล และความมุ่งมั่นก็เช่นกัน ข้อความของเราถึงนายกรัฐมนตรีในวันนี้คือ ท้องถนนจะต้องเป็นผู้ตัดสินงบประมาณ”

นอกจากนี้ การประท้วงยังคงเชื่อมโยงกับความไม่พอใจเดิมที่มีต่อกฎหมายปฏิรูปเงินบำนาญ ซึ่งเพิ่มอายุเกษียณจาก 62 เป็น 64 ปี การประท้วงครั้งนี้จึงเป็นการทดสอบครั้งสำคัญสำหรับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เซบาสเตียง เลอกอร์นู และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ซึ่งความนิยมกำลังตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง

สหภาพแรงงานยืนยันว่าจะไม่ยอมถอยจนกว่ารัฐบาลจะยอมทบทวนแผนงบประมาณและหันมารับฟังข้อเรียกร้องของพวกเขา ซึ่งรวมถึงการขึ้นค่าแรง, เพิ่มเงินบำนาญ และการเก็บภาษีจากกลุ่มคนร่ำรวยและภาคธุรกิจให้มากขึ้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง