วันที่ 18 กันยายน 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้ สัมภาษณ์ก่อนการประชุมพรรคเพื่อไทย ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า เพื่อไทยจะดึงน.ส. พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ มาเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคนั้นในที่ประชุมได้มีพูดคุยกันอย่างไรบ้างนั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า นางสาว พินทองทา ” ท่านทำธุรกิจดีอยู่แล้ว “
ส่วนที่มีกระแสสังคมเชียร์ ให้ทาบทาม นาย ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีนางสาวพินทองทา มา เป็นแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยนั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า นายณัฐพงศ์เป็นคน สมาร์ท หล่ออยู่แล้ว ซึ่งก็ต้องถามเจ้าตัว อย่างไรก็ตามหากกระแสสังคมเชียร์นายณัฐพงศ์เสียงดังๆมากๆ ตนอาจจะไปเจรจาคุณแม่และภรรยาของนายณัฐพงษ์
เมื่อถามถึงกรณีที่ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์มารดา นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค ที่ได้เข้ามาที่ทำการพรรคและให้กำลังใจใจสส.เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น นายภูมิธรรม เผยว่า คุณหญิงพจมาน เป็นคนที่ใจแข็ง เพราะผลกระทบที่มีต่อครอบครัวท่านค่อนข้างรุนแรง การที่นางสาวแพทองธาร มาเป็นนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ก็ไม่อยากให้มาเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว เพราะท่านกลัวการเมืองที่รุนแรง
ขณะที่นาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อท่านเห็นใส่ชุดสีฟ้าขึ้นรถลูกกรงไป สำหรับมหาเศรษฐีที่เคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ดีคนหนึ่งของประเทศไทย และมีเงินมากมายมหาศาล ขนาดนั้น ไม่ต้องเข้ามายุ่งเรื่องนี้ แต่เมื่อเจอ นายทักษิณตัดผมสั้นเหมือนนักเรียนนายร้อย คุณหญิงพจมาน ท่านก็ยังแซวนายทักษิณว่าเหมือนนักเรียนนายร้อยพูดถึงความทรงจำเก่า แต่ความสะเทือนใจมันก็มี แต่ท่านเป็นผู้หญิงแข็งแกร่ง ไม่เสียน้ำตาง่ายๆ ทั้งนี้คุณหญิงพจมานเป็นคนที่ไม่ยุ่งการเมือง แต่สิ่งที่เป็นมรดกที่ครอบครัวเข้ามามีส่วน และผลักดัน และได้เห็นมาตลอด เพราะสิ่งที่ทำนั้นเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ท่านก็เข้ามาให้กำลังใจ ยิ้มและบอกว่า”สู้สู้นะคะ“ ขณะที่สส. ก็รู้สึกประทับใจในการวางตัวของท่านมาโดยตลอด เห็นใจในสิ่งที่พ่อและลูกถูกกระทำ ซึ่งท่านก็ทำให้สส.ทุกคนรู้สึกดีมากๆ
เมื่อถามว่าการที่คุณหญิงพจมาน มาให้กำลังใจในที่ประชุมสส.นั้น ทำให้สส.ที่กำลังลังเลใจอยากย้ายพรรค อยากอยู่พรรคเพื่อไทยต่อหรือไม่นั้น นาย ภูมิธรรมกล่าวว่าสส.ส่วนใหญ่ยังคงอยู่กับพรรค แต่ที่ผ่านมาอาจจะมีการบริหารจัดการพรรคที่บกพร่องไปบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาของพรรคการเมือง บางคนอาจจะรู้สึกไม่สบายใจ แต่หลังจากแกนนำต่างๆกลับมา และเห็นถึงชะตากรรมที่เกิดขึ้นต่อ ตระกูลชินวัตร ก็ทำความเข้าใจกันได้มากขึ้น ยิ่งเห็นนายทักษิณที่เปรียบเสมือนผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย เป็นคนที่ทุกคนเคารพรักและชื่นชมก็รู้สึกเห็นใจท่าน
ดังนั้นความสะเทือนใจที่เกิดขึ้นและเห็นสิ่งที่ท่านต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชน นำพวกเรามาทำสิ่งดีๆได้เยอะ ดังนั้นตนเชื่อว่าคนที่จะออกจากพรรคนั้นมีไม่เยอะ ส่วนคนที่กังวลใจและได้พูดคุยกันก็ดีขึ้นเยอะ รู้สึกว่าเรามีพลังเพิ่มขึ้น ตนยืนยันว่า10ล้านกว่าเสียงของพรรคเพื่อไทย เป็น 10ล้านกว่าเสียงที่มั่นคง ถูกกระทำถูกรัฐประหารแต่ 10 ล้านเสียงนี้ ไม่เคยแปรปรวน แต่จากสถานการณ์การเมือง ที่ไร้เสถียรภาพและวุ่นวายขนาดนี้ ตนเชื่อว่า 10ล้านเสียงยังคงมั่นคง และยังมีเสียงที่เคยสนับสนุนเรา ก็ตอบรับเรามีมากยิ่งขึ้น ตนเชื่อว่าครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นที่1ก็เป็นที่ 2 ถ้าจะพลาดไปบ้างก็เป็นที่2 แต่จะทำออกมาให้ดีที่สุด