คัดลอก URL แล้ว

ปิดมาปิดกลับ! ฮุน มาเนต สั่งปิดด่านตอบโต้ อ้างนายกฯ ไทยเคยขอเปิด แต่กองทัพกลับสั่งปิด

วันนี้ (22 มิ.ย. 2568) ฮุน มาเนตได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ้ก พร้อมเอกสารทางการของกัมพูชา เกี่ยวกับการปิดด่านชายแดนของกัมพูชา เพื่อตอบโต้ประเทศไทย หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา แม่ทัพภาคที่ 2 ได้มีคำสั่งปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาเพิ่มเติม โดยระบุว่า

เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ว่าฯ จ.อุดรมีชัย ได้แจ้งว่า กองทัพภาคที่ 2 ของไทย ได้ตัดสินใจฝ่ายเดียวในการปิดด่านช่องสายตะกู โดยตนเองนั้นได้เห็นชอบตามข้อเสนอของผู้ว่าฯ จ.อุดรมีชัยในการตอบโต้ประเทศไทย ด้วยการปิดด่านเช่นกัน โดยทางการกัมพูชาจะมีการปิดด่าน ด่านช่องจอม – จุ๊บโกกี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ฮุน มาเนตยังระบุด้วยว่า ที่ผ่านมาทางการไทยมีการปิดด่านชายแดนเพียงฝ่ายเดียวมาโดยตลอด และไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนทั้งสองประเทศ และกัมพูชาไม่ได้ต้องการที่จะสร้างความลำบากให้กับประชาชนแต่อย่างใด

ในโพสต์ดังกล่าว ยังระบุด้วยว่า กัมพูชาจะตอบโต้ไทยในลักษณะเดียวกันนี้ หากไทยปิดด่านเพิ่มเติม ก็จะสั่งปิดด่านด้วยเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมา นายกฯ ของไทย ก็ได้มีการเจรจาร้องขอการเจรจาทั้งสองฝ่ายให้มีการเปิดด่านมาโดยตลอด แต่กองทัพไทยยังคงเดินหน้าปิด หรือ เปลี่ยนแปลงเวลาฝ่ายเดียว

ซึ่งปัญหานี้ ฮุน มาเนต ระบุว่า แก้ไขได้ง่ายมาก เพียงกองทัพไทย กลับมาเปิดด่านตามปรกติ ก็แก้ไขปัญหาได้แล้ว โดยไม่ต้องเสียเวลามานั่งเจรจากันแต่อย่างใด

คำแปลฉบับเต็มของฮุน มาเนต กรณีปิดด่านกัมพูชาเพิ่มเติม

เมื่อคืนวานนี้ (21 มิถุนายน) ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัยได้รายงานข้าพเจ้าว่า กองทัพภาคที่ 2 ของกองทัพไทยได้แจ้งถึงการตัดสินใจ โดยฝ่ายเดียว ที่จะปิดด่านชายแดนช่องจุ๊บโกกี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ข้าพเจ้าเห็นชอบกับการตอบสนองของผู้ว่าฯ ว่าเราจะทำการปิดด่านชายแดนดังกล่าวอย่างถาวรเช่นกัน ข้าพเจ้ายังได้สั่งการให้ผู้ว่าฯ แจ้งไปยังฝ่ายไทยด้วยว่า กัมพูชาได้ตัดสินใจปิดด่านอีกแห่งหนึ่งที่ช่องจอม (Choam) เช่นเดียวกับด่านจู๊บกกิ โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นับตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2568 กองทัพไทยได้ดำเนินการปิดด่านชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย โดยฝ่ายเดียว มาโดยตลอด โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบด้านลบที่จะเกิดกับประชาชนของทั้งสองประเทศมากนัก

กัมพูชาไม่เคยมีความตั้งใจที่จะสร้างความยากลำบากให้กับประชาชนของทั้งสองประเทศที่จำเป็นต้องใช้ด่านชายแดน แต่หากกองทัพไทยยังคงใช้วิธีการนี้เพื่อกดดันกัมพูชาต่อไป กัมพูชาก็พร้อมที่จะตอบสนองในลักษณะเดียวกันได้ทุกเมื่อ

เป็นเรื่องน่าแปลกที่ในขณะที่ผู้นำทางการเมืองของไทย รวมถึงนายกรัฐมนตรี ได้ร้องขอให้มีการเจรจาสองฝ่ายเพื่อเปิดด่านชายแดนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่กองทัพไทยกลับยังคงเดินหน้าปิดหรือเปลี่ยนแปลงเวลาปิดด่าน โดยฝ่ายเดียว

ข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่านี่เป็นยุทธวิธีหรือกลยุทธ์ในความสัมพันธ์การทำงานระหว่างรัฐบาลไทยและกองทัพไทยกันแน่ เพราะดูเหมือนว่าจะขาดฉันทามติและความชัดเจนในวัตถุประสงค์ที่แท้จริงเกี่ยวกับการปิดชายแดน ฝ่ายหนึ่งต้องการเจรจาสองฝ่ายเพื่อเปิดด่านและกลับสู่ภาวะปกติ ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่ง คือกองทัพไทย กลับยังคงปิดด่าน โดยฝ่ายเดียว ต่อไป

สำหรับกัมพูชา เรามีฉันทามติเสมอตั้งแต่ผู้นำระดับสูงของรัฐบาลไปจนถึงกองกำลังภาคพื้นดิน เมื่อนายกรัฐมนตรีออกคำสั่ง หน่วยงานระดับชาติ ระดับภูมิภาค และกองทัพจะปฏิบัติตามโดยพร้อมเพรียง

ในเรื่องการเปิดด่านชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย ข้าพเจ้าขอตอกย้ำจุดยืนของรัฐบาลกัมพูชาอีกครั้งว่า: ไม่มีความจำเป็นต้องมีการเจรจาสองฝ่ายใดๆ ทั้งสิ้นในการเปิดด่าน

หากฝ่ายไทยต้องการให้ด่านชายแดนของเรากลับมาเปิดทำการตามปกติเหมือนที่เคยเป็น ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว กองทัพไทยซึ่งเป็นผู้ที่เริ่มปิดด่านโดยฝ่ายเดียวเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 เพียงแค่ต้องกลับไปเปิดด่านโดยฝ่ายเดียวก่อนให้เหมือนกับช่วงก่อนวันดังกล่าว แล้วกัมพูชาจะเปิดด่านทั้งหมดในฝั่งของเราภายในเวลาไม่เกิน 5 ชั่วโมงหลังจากนั้น วิธีแก้ปัญหาที่เรียบง่ายเช่นนี้สามารถทำได้อย่างรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องเจรจาสองฝ่าย สิ่งที่ต้องมีทั้งหมดคือความปรารถนาที่จริงใจและซื่อสัตย์ของฝ่ายไทยที่จะเปิดด่านชายแดนเท่านั้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง