สถานการณ์ในตะวันออกกลางทวีความตึงเครียดถึงขีดสุด หลังจากมีรายงานข่าวว่าอิสราเอลได้เปิดฉากปฏิบัติการโจมตีอิหร่านโดยตรงในวันนี้ (13 มิถุนายน 2568) ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าจะบานปลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบในภูมิภาคทันที
สำนักข่าวหลายแห่งรายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน และพื้นที่อื่นๆ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา คาดว่า มีการโจมตีอิหร่านไปแล้วอย่างน้อย 2 ระลอก ซึ่งเบื้องต้นพื้นที่ที่ถูกโจมตีประกอบไปด้วย ฐานทัพของอิหร่าน และบริเวณที่เกี่ยวข้องกับโครงการเสริมสมรรถนะนิวเคลียร์ของอิหร่าน เช่น
- กรุงเตหะรานและสถานที่ทางทหารในบริเวณโดยรอบ
- โรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมหลักของอิหร่าน ในมืองนาตันซ์ ทางตอนใต้ของเตหะราน
- ศูนย์วิจัยนิวเคลียร์และฐานทัพทหาร 2 แห่ง ในเมืองทาบริซ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเตหะราน
- เมืองอิสฟาฮาน ทางตอนใต้ของเตหะราน
- เมืองอารัก ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเตหะราน
- เมืองเคอร์มันชาห์ ทางตะวันตกของเตหะราน

ซึ่งในขณะนี้ มีรายงานว่า การโจมตีของอิสราเอลต่ออาคารที่พักอาศัยในเมืองหลวงของอิหร่าน ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตหลายราย รวมถึงเด็กๆ ด้วย รวมถึงนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ชาวอิหร่านอย่างน้อย 2 รายเสียชีวิตจากการโจมตี
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลอีกด้วย

ทางด้านของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ได้ออกมาระบุว่า กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้ยืนยันว่า โรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมหลักของอิหร่านในเมืองนาตันซ์ ถูกโจมตี และทาง IAEA กำลังพยายามติดต่อผู้ตรวจสอบ
ผู้นำอิหร่านกร้าว อิสราเอลต้องเผชิญกับชะตากรรมที่ขมขื่น
สำนักข่าว IRNA ของอิหร่าน ได้เผยแพร่แถลงการณ์จากผู้นำสูงสุด อายาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี โดยระบุว่า อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีอย่างสกปรกด้วยมือที่เปื้อนเลือด เผยให้เห็นความชั่วร้ายของตนเอง ด้วยการโจมตีไปยังศูนย์ที่พักอาศัย ด้วยอาชญากรรมนี้ ระบอบไซออนิสต์ได้เตรียมชะตากรรมอันขมขื่นและเจ็บปวดไว้สำหรับตัวเอง และพวกเขาจะต้องเผชิญกับมันอย่างแน่นอน

นายกฯ อิสราเอลออกแถลงการณ์
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลได้ออกแถลงการณ์ถึงการโจมตีในครั้งนี้ว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นในการป้องกันภัยคุกคามของอิสราเอลจากอิหร่าน เนื่องจากอิหร่านได้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ภายในประเทศ และอิสราเอลจะไม่ตกเป็นเหยื่อของภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน อิสราเอลจะไม่ยอมให้อิหร่านบรรลุเป้าหมายนั้น โดยการโจมตีจะเกิดขึ้นต่อไปเป็นระยะเวลานานเท่าที่จำเป็น ในการขจัดภัยคุกคามต่ออิสราเอล
ทางด้านของเอียล ซามีร์ หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการทหารอิสราเอล กล่าวว่ากองทัพกำลัง “ระดมทหารหลายหมื่นนายและเตรียมพร้อมข้ามทุกพรมแดน” พร้อมทั้งเตือนว่า “ใครก็ตามที่พยายามท้าทายเราจะต้องได้รับสิ่งที่ต้องจ่ายราคาแพง”
“เรามีการเตรียมการปฏิบัติการนี้มาเป็นเวลานาน โดยได้ใช้ความพยายามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในทุกสาขาและทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามที่จับต้องได้และเกิดขึ้นในปัจจุบัน”

สหรัฐฯ ปฏิเสธการมีส่วนร่วม
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐอเมริกาได้ออกมายืนยันกับสื่ออย่างรวดเร็วว่า สหรัฐฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือให้การช่วยเหลือในการโจมตีครั้งนี้แต่อย่างใด และเป็นการตัดสินใจปฏิบัติการแต่เพียงฝ่ายเดียวของอิสราเอล
ซึ่งทางด้านของเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ ระบุว่า อิสราเอลได้มีการพูดคุยกับทางสหรัฐฯ บางส่วน แต่การตัดสินใจโจมตีนั้น เป็นการตัดสินใจของอิสราเอลทั้งหมด ไม่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ แต่อย่างใด
โดยในแถลงการณ์ของทำเนียบขาวยืนยันว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะจัดการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในเช้าวันศุกร์ เวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อหารือเกี่ยวกับการโจมตีอิหร่านของอิสราเอล
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายคาดว่า สหรัฐฯ รู้ว่า จะมีการโจมตีเกิดขึ้น จึงได้มีการสั่งอพยพบุคลากรที่ไม่จำเป็นออกจากกรุงแบกแดน และพื้นที่อื่น ๆ ในภูมิภาคเมื่อราว 48 ชั่วโมงก่อนหน้านี้
ซึ่งในขณะนี้ หลายชาติกำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และคาดว่าจะมีความเคลื่อนไหวจากนานาชาติเพื่อเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้นและหลีกเลี่ยงการกระทำที่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
สถานทูตไทยแจ้งเตือนคนไทย
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ออกประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอลให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดและปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน และให้รีบเข้าห้องนิรภัยทันทีเมื่อได้ยินเสียงไซเรนเตือนภัย
