
หมอมานพเตือนอีกครั้ง หลังกรณี “เอ๋ พรทิพย์” ชี้ผู้ไม่สูบบุหรี่เสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะหญิงเอเชีย PM2.5 คือปัจจัยเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม
เอ๋ พรทิพย์ป่วยจริง หมอมานพย้ำ! มะเร็งปอดไม่ใช่แค่ของคนสูบบุหรี่
การเปิดเผยข่าว “เอ๋ พรทิพย์ สกิดใจ” ภรรยาของนักแสดงชื่อดัง ป๋อ ณัฐวุฒิ ว่าป่วยเป็นมะเร็งปอด สร้างความตระหนักใหม่ในสังคมว่าภัยร้ายนี้ไม่เลือกเหยื่อ ล่าสุด ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยจีโนมิกส์ศิริราช โพสต์ข้อความผ่าน X เมื่อ 3 มิ.ย. 68 เตือนว่า “มะเร็งปอดในคนไม่สูบบุหรี่พบบ่อยขึ้น โดยเฉพาะหญิงเอเชีย และพบในคนอายุน้อยเพิ่มขึ้น” ชี้สัมพันธ์กับฝุ่นพิษ PM2.5 และย้ำว่า “ซีเรียสมากนะครับ”
สถิติพุ่ง! คนไทยเสียชีวิตวันละ 40 รายจากมะเร็งปอด
ข้อมูลจากกรมการแพทย์ระบุว่า มะเร็งปอดคร่าชีวิตคนไทยปีละกว่า 14,500 ราย หรือเฉลี่ยวันละ 40 ราย โดยพบผู้ป่วยใหม่ปีละประมาณ 17,222 คน ปัจจัยเสี่ยงหลัก ได้แก่ การสูบบุหรี่ ฝุ่น PM2.5 และสารก่อมะเร็งในสิ่งแวดล้อม โดยในช่วง 3-5 ปีหลัง จำนวนผู้ป่วยที่ “ไม่สูบบุหรี่” แต่ตรวจพบมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหญิงชาวเอเชียในเขตเมือง
อาการมะเร็งปอดมักเงียบและไม่แสดงอาการในระยะแรก ทำให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์เมื่อเข้าสู่ระยะลุกลาม เช่น ไอเรื้อรัง ไอมีเลือด หายใจลำบาก หรือเจ็บแน่นหน้าอก การวินิจฉัยต้องอาศัย CT scan หรือ PET/CT ร่วมกับการตรวจชิ้นเนื้อ ขณะที่การตรวจคัดกรองในกลุ่มเสี่ยงสูงด้วย CT ปริมาณรังสีต่ำยังไม่เป็นที่แพร่หลายในไทย
สังคมร่วมส่งใจ “เอ๋” พร้อมตระหนักภัย PM2.5
นอกจากความห่วงใยที่หลั่งไหลถึง “เอ๋ พรทิพย์” ที่ออกมาเปิดใจผ่านอินสตาแกรมและยูทูบส่วนตัว “ป๋อสะกิดเอ๋” แล้ว สังคมไทยยังได้บทเรียนสำคัญจากกรณีนี้ว่า มะเร็งปอดไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป โดยเฉพาะในบริบทของวิกฤตฝุ่น PM2.5 ที่ปกคลุมเมืองใหญ่ตลอดทั้งปี
เสียงเตือนจากหมอมานพที่ระบุว่า “แม้จะมีการพัฒนาการรักษา แต่การป้องกันคือคำตอบสำคัญ” ย้ำถึงความจำเป็นของการมีระบบติดตามสุขภาพและนโยบายจัดการมลพิษอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้คนไทยต้องเสียชีวิตวันละ 40 รายจากโรคร้ายที่อาจป้องกันได้