คัดลอก URL แล้ว
ทรัมป์ขู่จีน เลิกขึ้นภาษีตอบโต้ ไม่งั้นจะขึ้นอีก 50% จีนสวน “สู้ถึงที่สุด”

ทรัมป์ขู่จีน เลิกขึ้นภาษีตอบโต้ ไม่งั้นจะขึ้นอีก 50% จีนสวน “สู้ถึงที่สุด”

ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศมาตรการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าประเทศต่าง ๆ ไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีหลายประเทศได้ติดต่อขอเจรจาแนวทางการตกลงเพื่อปรับลดภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ แล้ว อย่างน้อย 50 ประเทศ

ในขณะที่จีน ได้ประกาศตอบโต้มาตรการดังกล่าวแล้ว โดยจะมีการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เป็น 34% เนื่องจากการปรับขึ้นภาษีในครั้งนี้ ส่งผลให้สินค้าจากจีนได้รับผลกระทบมากยิ่งขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีการประกาศขึ้นภาษีสินค้าจากจีนไปแล้ว 20% เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

การปรับขึ้นในครั้งนี้ จึงทำให้สินค้าจากจีนไปยังสหรัฐฯ จะต้องเผชิญกับกำแพงภาษีใหม่รวมเป็น 54% ทำให้จีนจึงเลือกที่ตอบโต้มาตรการดังกล่าว พร้อมทั้งได้แสดงท่าทีที่เดินหน้าตอบโต้มาตรการภาษีของทรัมป์ ผ่านบทความที่แสดงความคิดเห็นต่อการขึ้นภาษีดังกล่าว ที่ระบุถึงความสามารถของจีน ที่จะรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น

ซึ่งที่ผ่านมา จีนเคยผ่านประสบการณ์การในการปรับขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ มาหลายครั้ง ซึ่งก็สามารถรับมือได้ นอกจากนี้ จีนยังคงพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนแผนรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การตอบโต้ของจีน ยังเล็งไปถึงการควบคุมการส่งออกแร่หายากในกลุ่มแรร์เอิร์ธอีกด้วย

ทรัมป์ประกาศยกระดับตอบโต้อีกครั้ง

ภายหลังจากที่จีน ประกาศว่า จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 34% ทำให้ทรัมป์ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นเพิ่มเติมถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า

สหรัฐฯ จะทำการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 50% หากไม่ยกเลิกมาตรการขึ้นภาษี 34% ที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งหากมีการประกาศปรับขึ้นจริง จะทำให้สินค้าจากจีนเข้าสู่สหรัฐฯ จะเผชิญกับภาษีสูงถึง 104%

ทางด้านจีน ก็ได้ส่งสัญญาณอีกครั้งว่า จะต่อสู้จนถึงที่สุด หากสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีการเพิ่มอัตราภาษีขึ้นอีก 50% โดยยืนยันว่า จะใช้มาตรการตอบโต้เพื่อปกป้องสิทธิ์และผลประโยชน์ของจีนต่อไป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เพื่อการนำเสนอเนื้อหาที่ดี รวมถึงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากคุณใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆนั้น แสดงว่าคุณยอมรับนโยบายคุกกี้และนโยบายส่วนบุคคลของเรา