สถานการณ์สงครามการค้าที่ส่อแววขยายตัว ภายหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้ประกาศ “วันปลดแอก” ให้กับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยการประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศต่าง ๆ
ล่าสุด (5 เม.ย.) นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ของกัมพูชา ได้เปิดเผยว่า รัฐบาลกัมพูชาพร้อมยินดีที่จะเจรจาเกี่ยวกับมาตรการภาษี โดยได้ส่งจดหมายถึงโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อขอเจรจาต่อรองภาษีศุลกากร ระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ โดยเนื้อหาในเอกสารระบุว่า
ตามที่ได้มีประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2025 เกี่ยวกับการกำหนดอัตราภาษีศุลกากรร้อยละ 49 สำหรับสินค้าของกัมพูชา โดยมีผลในวันที่ 9 เมษายน 2025 เป็นต้นไป รัฐบาลกัมพูชาเห็นว่า ประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กระชัดชิด จึงจอให้มีการเลื่อนการดำเนินการออกไปก่อน และกัมพูชาพร้อมที่เจรจากับทางรัฐบาลสหรัฐฯ
ซึ่งอัตราภาษีศุลกากรสูงสุดที่กัมพูชาใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นอยู่ที่ร้อยละ 35 เพื่อเป็นการแสดงความจริงไจ และไมตรีต่อกัน รวมถึงเป็นการสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศ กัมพูชายินดีที่ส่งเสริมการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ โดยจะลดอัตราภาษีศุลกากรสำหรับสินค้า 19 ประเภท จากอัตราร้อยละ 35 ลงมาอยู่ที่ ร้อยละ 5 ทันที
โดยได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชาเป็นผู้ประสานงานกับผู้แทนทางการค้าของสหรัฐฯ ต่อไป
กัมพูชามีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการมีส่วนร่วมในการเจรจาที่สร้างสรรและก่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกันกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อสร้างเสริมการค้าทวิภาคีของทั้งสองประเทศให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำมาซึ่งทั้งสองประเทศและประชาชนสามารถได้รับประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมจากความสัมพันธ์ทางการค้าที่สำคัญนี้
