หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ประกาศเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา ว่า จะเป็น วันปลดปล่อยประเทศ (Liberation Day) ของอเมริกา ในสงครามการค้ากับหลายประเทศ โดยการประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศ เช่น จีน สหภาพยุโรป รวมถึงไทยด้วย
สิงคโปร์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ถูกประกาศให้มีการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้า แม้ว่า จะอยู่ในระดับต่ำที่สุด คือ 10% (ไทย 36%) นั่นทำให้ นายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ได้ออกแถลงการแจ้งเตือนชาวสิงคโปร์ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ผ่านทาง Youtube ของตนเอง
โดย นายลอว์เรนซ์ หว่อง ได้ระบุว่า ผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ นั้น แม้จะอยู่ในระดับต่ำที่สุดคือ 10% แต่ผลที่จะเกิดขึ้นนั้น “กระทบเป็นวงกว้าง และลึก” มากกว่าที่คาดการไว้
ซึ่งนายกฯ สิงคโปร์กล่าวว่า หากประเทศอื่น ๆ เริ่มต้นสงครามการค้าในแบบเดียวกับสหรัฐฯ นั้น สิงคโปร์จะได้รับผลกระทบมากกว่าประเทศอื่น ๆ เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่พึ่งพาการค้าเป็นอย่างมาก
ดังนั้นในแนวทางที่จะเกิดขึ้น สิงคโปร์จะไม่เรียกเก็บภาษีตอบโต้ในสงครามการค้าของสหรัฐฯ แต่ประเทศอื่นนั้น อาจจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น
“และมีความเป็นไปได้ที่สงครามการค้าแบบเต็มรูปแบบจะเกิดขึ้น และขยายวงกว้างออกไป”
ผลกระทบจากภาษีที่สูงขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนของนโยบายทางการค้าของประเทศต่าง ๆ จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจโลก การค้า การลงทุนระหว่างประเทศ และการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง
ซึ่ง ลอว์เรนซ์ หว่องมองว่า “เป็นการจัดระเบียบโลกครั้งใหญ่” ยุคของการค้าเสรีได้สิ้นสุดลงแล้ว และจะเต็มไปด้วยการมองหาผลประโยชน์ กีดกันทางการค้า และอันตรายอย่างยิ่ง ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา สหรัฐฯ เป็นรากฐานของเศรษฐกิจในตลาดเสรีของโลก
นอกจากนี้ หว่องยังมองว่า สิ่งที่สหรัฐฯ กำลังดำเนินการอยู่นี้ “ไม่ใช่การปฏิรูป” แต่เป็นการละทิ้งระบบที่เคยเกิดขึ้น และยกเลิกกรอบกฏเกณฑ์ดั้งเดิมทางการค้าไปโดยสมบูรณ์ และจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้
“ไม่มีใครบอกได้ว่า สถานการร์ในไม่กี่เดือนข้างหน้า หรืออีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่เราต้องตระหนักถึงอันตรายที่กำลังก่อตัวขึ้น หลายประเทศกำลังเสื่อมถอยลง ยึดถือผลประโยชน์กันมากขึ้น สถาบันต่าง ๆ ในโลกนี้กำลังอ่อนแอลง และจะส่งผลให้มีการใช้กำลัง หรือสร้างแรงกดดันเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
นี่คือความจริงที่โหดร้ายของโลกในปัจจุบัน“
ซึ่งนายลอว์เรนซ์ หว่อง ได้ออกแถลงการณ์ในครั้งนี้ เพื่อต้องการแจ้งเตือนชาวสิงคโปร์ให้เสริมสร้างศักยภาพ สร้างเครือข่ายให้กับประเทศต่าง ๆ เพื่อรับมือกับความน่ากลัวที่กำลังจะเกิดขึ้นตามมา
ความสงบและเสถียรภาพของโกลที่เราเคยรู้จัก จะไม่กลับมาในเร็ววันนี้ และเราไม่อาจคาดหวังว่า กฏเกณฑ์ต่าง ๆ จะปกป้องประเทศเล็ก ๆ จะยังสามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป