ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ลงนำในคำสั่งในการดำเนินการเข้าสู่กระบวนการยุบกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทรัมป์เคยหาเสียงไว้ โดยมองว่า ที่ผ่านมา งบประมาณที่ใช้จ่ายของกระทรวงฯ นั้นด้อยประสิทธิภาพ ไม่ส่งเสริมให้การศึกษาของสหรัฐฯ สู้กับชาติอื่น ๆ ได้ ทั้งยังเดินหน้าปลูกฝั่งเนื้อหาเรื่องของเชื้อชาติ เพศ และการเมืองเข้าไปมากกว่า รวมถึงไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่อีกด้วย
โดยในถ้อยแถลงของทรัมป์ ได้ระบุว่า กระทรวงศึกษาธิการของสหรัฐฯ ก่อตั้งมาเมื่อปี 1979 ด้วยความเชื่อที่ว่า กระทรวงศึกษาฯ จะวางรากฐานของการศึกษาของประเทศ และเป็นศูนย์กลางในควบคุมมาตรฐานการศึกษา แต่ที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาฯ กลับไม่ได้เป็นแบบนั้น สิ่งที่กระทรวงฯ ทำเป็นเพียงการดูแลงานประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ
การยุบกระทรวงจะเป็นทางเลือกที่ช่วยให้เด็กและครอบครัวได้หนีจากระบบที่ล้มเหลวในปัจจุบัน ซึ่งเห็นได้จากคะแนนการอ่านและคณิตศาสตร์ของชาวอเมริกันอยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการ 70% ของนักเรียนเกรด 8 มีความสามารถในการอ่านที่ต่ำ และ 72% มีทักษะด้านคณิตศาสตร์ต่ำกว่ามาตรฐาน สะท้อนว่า ระบบการศึกษาของส่วนกลางไม่ได้ผล
นอกจากนี้ ในปัจจุบันกระทรวงศึกษา ยังมีหน้าที่ในการดูแลหนี้สินเงินกู้เพื่อการศึกษากว่า 1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับธนาคารขนาดใหญ่ของประเทศ ที่มีพนักงานเป็นจำนวนมากกว่า กระทรวงศึกษาหลายเท่า ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการจึงไม่ใช่ธนาคาร ต้องคืนหน้านี้ดังกล่าวนี้ ให้แก่ธนาคาร, หน่วยงานที่พร้อมให้บริการกับนักศึกษา
สำหรับการลงนามในครั้งนี้ ไม่ได้ระบุรายละเอียดกรอบเวลาของการดำเนินการไว้แต่อย่างใด ซึ่งในแนวทางของการยุบที่เกิดขึ้นนั้น โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า จะทำให้กระทรวงฯ มีขนาดเล็กลง ลดขนาดหน่วยงานต่าง ๆ ลง เพื่อให้บริการอื่น ๆ ที่จำเป็นยังคงดำเนินการต่อไปได้