พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ได้สั่งการให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงเร่งตรวจสอบกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ “ผู้กำกับโจ้” อายุ 43 ปี อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ซึ่งเสียชีวิตที่เรือนจำกลางคลองเปรมเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการปกครอง กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ลงพื้นที่เพื่อติดตามตรวจสอบข้อมูลกรณีผู้ถูกควบคุมตัวถึงแก่ความตาย และให้นำเรื่องเสนอคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองเกี่ยวกับการกระทำทรมาน ตามมาตรา 28 ของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการกระทำทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 เป็นกรณีเร่งด่วน
จากรายงานของกรมราชทัณฑ์ระบุว่า เจ้าพนักงานเรือนจำพบ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เสียชีวิตในห้องขังเมื่อเวลา 20.24 น. ของวันที่ 7 มีนาคม 2568 ในลักษณะนั่งหลังพิงกับประตูห้องขัง ใช้ผ้าขนหนูขนาดเล็กผูกคอกับประตูห้องขัง ไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียก ไม่รู้สึกตัว ปลายนิ้วมือซีดเขียวคล้ำ ไม่พบชีพจรบริเวณหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ โดยการตรวจสอบกล้องวงจรปิดไม่พบว่ามีผู้ใดเข้าออกห้องดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ยืนยันว่าไม่มีเจ้าพนักงานเรือนจำหรือผู้ต้องขังรายใดทำร้าย พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยทันที
อย่างไรก็ตาม นายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมกราคม 2568 ทนายได้แจ้งความร้องทุกข์กรณีที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ถูกผู้คุมเรือนจำกลางคลองเปรมด่าทอและชกต่อย จนบาดเจ็บมีรอยฟกช้ำขนาดใหญ่ที่ทรวงอก นอกจากนี้ ทนายยังเปิดเผยว่า ญาติของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ได้เข้าเยี่ยมในช่วงบ่ายของวันที่ 7 มีนาคม 2568 ซึ่งเหตุการณ์เป็นปกติ โดย พ.ต.อ.ธิติสรรค์ แจ้งว่าต้องเข้าไปสอบสวนวินัยหลังเวลา 15.00 น. เนื่องจากมีความผิดกระด้างกระเดื่อง ก่อนที่จะเกิดเหตุในคืนเดียวกัน ทั้งนี้ ทนายความได้แจ้งความที่ สน.ประชาชื่น และขออายัดศพเพื่อนำไปชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานี
ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง โดยคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายจะเร่งดำเนินการตรวจสอบตามคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมต่อไป
