เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 19 ก.พ.68 ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้หารือผ่านทางโทรศัพท์กับนาย Pete Hegseth (พีท เฮกเซธ) รมว.กลาโหมสหรัฐฯ
ซึ่งที่ผ่านมารมว.สหรัฐฯ ได้มีการหารือทางโทรศัพท์ เพื่อแนะนำตัวในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่และหารือด้านความมั่นคงร่วมกัน กับรมว.กลาโหม ในหลายประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
โดยรองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้แสดงความยินดีที่ นาย Pete Hegseth ได้รับตำแหน่งรมว.กลาโหมของสหรัฐฯ รวมทั้งยืนยันการสานต่อและพัฒนาความสัมพันธ์ทางทหารกับสหรัฐฯ ให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในฐานะที่ไทยเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้บรรลุเจตนารมณ์ของแถลงการณ์วิสัยทัศน์ระหว่าง ไทย – สหรัฐฯ ค.ศ. ๒๐๒๐ ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศ (Joint Vision Statement 2020 for the Thai-U.S.Defense Alliance)รวมทั้งขอบคุณฝ่ายสหรัฐฯ สำหรับการสนับสนุนการจัดหายุทโธปกรณ์ทารทหารให้กับไทยผ่านโครางการต่างๆ และสนับสนุนที่นั่งศึกษาให้กับฝ่ายไทย ทั้งนี้ ยินดีเป็นอย่างยิ่งหากทางสหรัฐฯ จะให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งไทยได้ขอบคุณสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุนที่นั่งศึกษาแก่กําลังพลของ กห. โดยเฉพาะภายใต้โครงการ “ไอ – เม็ท” (IMET) มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนสําคัญในการพัฒนาขีดความสามารถของกําลังพลให้สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นํากองทัพที่มีคุณภาพและมีความเป็นทหารอาชีพ ผมจึงอยากขอให้ทำงานได้ช่วยสนับสนุนโครงการดังกล่าวกับไทยให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องต่อไป เนื่องจากความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ในด้านการศึกษาของกําลังพล เป็นเสมือนสัญลักษณ์ความสัมพันธ์ทางการทหารที่มีมาอย่างยาวนาน รวมทั้งมีความสําคัญในการในการพัฒนาขีดความสามารถในการ ปฏิบัติการร่วมกับสหรัฐฯ และพันธมิตรในอนาคต รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ขอบคุณฝ่ายสหรัฐฯ สําหรับการสนับสนุนการจัดหายุทโธปกรณ์ทางการทหาร ให้กับกองทัพไทยผ่านโครงการความช่วยเหลือแบบต่างๆ ตลอดห่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ดังนั้น ผมจึงอยากขอให้สหรัฐฯ ดํารงและรักษาซึ่งภาพความร่วมมือต่างๆเหล่านี้ไว้ เพื่อให้ความเป็นพันธมิตรและความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างสองชาติในภูมิภาค
ในการนี้รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ได้ชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน และมีความร่วมมือในหลาย ๆ ด้าน รวมทั้งยืนยันถึงนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงกับมิตรประเทศเช่นประเทศไทย นอกจากนี้ ขอยืนยันว่าสหรัฐฯ ยินดีให้การสนับสนุนหากไทยซึ่งเป็นมิตรประเทศในด้านความมั่นคงและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หวังว่าจะได้พบกันในเร็ววัน
นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศร่วมกันอีกด้วย
