คัดลอก URL แล้ว
สภาฯ ล่มอีก! “ปชน.” เสนอทางแก้ 3 ข้อ ชี้ทางออกคือ “ยุบสภาฯ”

สภาฯ ล่มอีก! “ปชน.” เสนอทางแก้ 3 ข้อ ชี้ทางออกคือ “ยุบสภาฯ”

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงข่าว เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเช้าที่ผ่านมา ว่าพรรคประชาชน พวกเรารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่ง เนื่องจากวาระการประชุมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แทบจะเป็นด่านสุดท้ายที่พวกเราคิดว่าถ้าเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ ก็พอมีโอกาสที่จะได้รับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันต่อการเลือกตั้งในปี พ.ศ.2570

อย่างไรก็ตามพวกเราเชื่อว่า การเดินแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้มีกระบวนการที่สามารถเดินทางตรงไปตรงมาได้ ไม่จำเป็นต้องเดินอ้อม ไม่เชื่อว่าการเดินอ้อมอย่างที่เป็นอยู่ จะสามารถนำไปสู่ปลายทางที่ประชาชนต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ เหตุการณ์เมื่อเช้า ช่วงระหว่างการพักการประชุมมีวิปทั้งสองฝ่ายเข้าไปหารือร่วมกัน เพื่อที่อย่างน้อยถ้าสมาชิกฝั่งรัฐบาล ยังมีข้อกังวลว่าหากเดินหน้าเข้าสู่วาระการประชุมในครั้งนี้ อาจจะมีการฟ้องร้องไปถึงข้อกฎหมายต่างๆได้ เราก็ยังเปิดโอกาสเพื่อที่จะให้มีการหารือกัน เปิดอภิปรายให้สมาชิกมีความเข้าใจมากขึ้น แต่ปรากฏว่าระหว่างการประชุมวิปร่วมกันระหว่างช่วงพักการประชุมเสร็จสิ้นนั้น พบว่า ฝั่งรัฐบาลยังคงเดินหน้าที่จะนับองค์ประชุมต่อ จนนำไปสู่การที่สภาฯ ล่มวันนี้

สิ่งที่พรรคประชาชนเชื่อว่าเป็นทางออก คือเดินหน้าตรงๆ เพื่อแก้ไขสิ่งที่ประเทศไทยในปัจจุบันยังขาด มี 3 เรื่องหลัก คือการขาดเจตจำนงทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ในส่วนของการขาดเจตจำนงทางการเมืองนี้ พรรคประชาชนยืนยันว่าหากก่อนหน้านี้ ทางพรรคเพื่อไทยได้มีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างจริงจัง เดินหน้าเต็มที่ ร่างรัฐธรรมนูญที่ถูกเสนอเข้ามา ก็ควรจะถูกเสนอเป็นร่าง ครม. แต่กลับเป็นร่างของพรรคเพื่อไทยเพียงร่างเดียว จนทำให้การประชุม 2 วันที่ผ่านมา ไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง

แต่เมื่อคืนที่ผ่านมานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่าที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร ไม่เคยเข้าไปหารือเรื่องนี้กับพรรคภูมิใจไทย เพื่อที่จะผลักดันแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นร่างของพรรคร่วมรัฐบาล แสดงให้เห็นเจตจำนงของพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำรัฐบาล ว่าไม่ได้มีความจริงจังที่จะผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็มที่

เรื่องต่อมา คือการขาดความเป็นนิติรัฐ จะเห็นบรรยากาศในที่ประชุมว่าสมาชิกรัฐสภาหลายส่วนออกให้ความเห็น มีข้อกังวลว่าจะมีพัวพันทางข้อกฎหมายในทีหลัง เรื่องนี้ ตนเองอยากชี้ให้สังคมได้เห็นว่าปัจจุบันประเทศเรายังขาดความเป็นนิติรัฐ ไม่ได้ถูกปกครองภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด แต่อยู่ภายใต้การปกครองของศาลรัฐธรรมนูญ กลายเป็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญใหญ่กว่ากฎหมายสูงสุดของประเทศ สมาชิกรัฐสภาแทนที่จะยึดถือกฎหมายรัฐธรรมนูญและตีความเอง กล้าใช้อำนาจของตัวเองเป็นหลักกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น จะทำอะไรเพื่อประโยชน์ของประชาชนก็วิ่งกลับไปถามศาลรัฐธรรมนูญก่อน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าระบบนิติรัฐของประเทศไทยกำลังมีปัญหา จำเป็นอย่างยิ่งที่จะจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ข้อสุดท้าย คือการไม่เคารพเสียงของประชาชน นโยบายในการหาเสียงทุกพรรคในช่วงหาเสียงเลือกตั้งมีข้อเสนอแบบเดียวกันคือจะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตลอดจนการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็เป็นนโยบายพรรคร่วมรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาเช่นเดียวกัน

ดังนั้น วิธีในการหาทางออกเรื่องนี้ ถ้านายกรัฐมนตรีในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาล มีความจริงจังที่จะเดินหน้าเรื่องนี้ นายกเป็นผู้ที่ถืออำนาจสูงสุดในการยุบสภาอยู่แล้ว นายกฯ สามารถที่จะเข้าไปเจรจาพูดคุยกับพรรคร่วม ว่าพรรคเพื่อแสดงเจตจำนงอย่างชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทยเคารพเสียงของประชาชน ถ้าไม่สามารถที่จะเดินหน้าผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นนโยบายที่พรรคร่วมรัฐบาลแถลงไว้ นายกก็มีอำนาจในการยุบสภาเพื่อคืนเสียงให้กับพี่น้องประชาชนได้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เพื่อการนำเสนอเนื้อหาที่ดี รวมถึงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากคุณใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆนั้น แสดงว่าคุณยอมรับนโยบายคุกกี้และนโยบายส่วนบุคคลของเรา