ตำรวจไซเบอร์เข้าตรวจสอบบ้านพักและคอนโด 4 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ หลังสืบสวนพบเว็บไซต์พนันออนไลน์ผิดกฎหมาย ประกาศโพสต์โฆษณา ชักชวน ประชาชนทั่วไปเล่นการพนันออนไลน์ในเพจเฟซบุ๊กและพบข้อมูลว่ามีเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปเข้าไปเล่นพนันออนไลน์ทุกวัน ตรวจสอบเบื้องต้น พบยอดเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาทต่อปี
จากข้อมูลสืบสวนพบว่า เว็บไซต์ดังกล่าวมีชาวไต้หวันรายหนึ่งเป็นผู้รับผลประโยชน์ ใช้วิธีการเขียนโปรแกรมหน้าเว็บไซต์แสดงเป็นเว็บไซต์รับซื้อขายภาพ NFT แต่เมื่อคลิกเข้าไปกลับพบข้อมูลหลังบ้านเป็นเว็บไซต์พนันออนไลน์
ต่อมาตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งขบวนการได้ 14 ราย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ตั้งแต่ผู้รับผลประโยชน์ลงมาจนถึงบัญชีม้า ซึ่งหลังเข้าตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 5 ราย เป็นชาวไต้หวัน 3 ราย ไทย 1 ราย และเมียนมา 1 ราย ในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ และความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 33 เครื่อง บัญชีธนาคารทั้งไทยและต่างประเทศ ซิมการ์ดโทรศัพท์ ของ สปป.ลาวและไทยกว่า 20 ซิม ธนบัตรเงินสกุลลาว เวียดนาม และไทย seed phrase( ชุดคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้สำหรับกู้ Private key เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัล)
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์บอกว่า การตรวจค้นจุดที่เป็นที่ตั้งออฟฟิศ พบแอดมินชาวไทยที่เดินทางมาจากชายแดนภาคใต้ 18 ราย ซึ่งถูกกันไว้ในฐานะพยาน เนื่องจากการสอบปากคำเบื้องต้น ยืนยันทั้งหมดสมัครงานผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยได้รับค่าจ้างวันละ 600 บาท ซึ่งมีการอ้างว่าให้มาเป็นพนักงานโอนเงินซื้อขายภาพดิจิตอล แต่เมื่อมาถึงนายจ้างให้ไปเปิดบัญชีธนาคารคนละหนึ่งบัญชี พร้อมกับแจกโทรศัพท์หนึ่งเครื่อง เพื่อทำการผูกบัญชีธนาคารเข้ากับโทรศัพท์ เมื่อติดตั้งระบบธนาคารในโทรศัพท์แล้วเรียบร้อยก็จะได้รับคำสั่งในแต่ละวันให้รับและโอนเงินไปให้คนต่างๆ ซึ่งกรณีนี้พบว่าแผนประทุษกรรมของเหล่าขบวนการเว็บพนันออนไลน์มีการเปลี่ยนรูปแบบ จากการหาคนสมัครใจเปิดบัญชี เป็นหลอกให้มาทำงานและให้เป็นบัญชีม้า