ฝุ่น PM2.5 วันนี้ ยังสูงขึ้น / อีสาน-กลาง-ตะวันออก-กทม. ส่วนใหญ่เกินค่ามาตรฐาน

ฝุ่น PM2.5 สูงขึ้นในหลายพื้นที่ มีแนวโน้มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ จากรายงานของศูนย์ศึกษาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ณ เวลา 08.00 น. พบว่า บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ส่วนใหญ่สูงเกินค่ามาตรฐาน และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับในภาคเหนือ แม้ว่า ในภาพรวมจำนวนของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 สูงเกินค่ามาตรฐานยังไม่มากเท่ากับภาคอื่น ๆ แต่แนวโน้มมีทิศทางเพิ่มสูงขึ้น

ซึ่งในภาพรวมของทั้งประเทศวันนี้ พบว่า พื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 สูงเกินกว่า 100 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร มีอยู่ทั้งหมด 81 จุดด้วยกัน เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จากวันก่อนหน้าที่พบเพียง 48

โดยที่จุดตรวจวัด รพ.ฟากท่า ต.ฟากท่า อ.ฟากท่า จ.อุตรดิตถ์ ยังคงเป็นจุดที่ตรวจพบค่าฝุ่น PM 2.5 สูงที่สุดในประเทศ เป็นวันที่ 2 ติดต่อ โดยวัดได้ 291 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ณ 08.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากวานนี้ ที่วัดได้ 222 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

ซึ่งในช่วงนี้ ฝุ่น PM2.5 ยังคงสะสมตัวได้ดี จากสภาพการระบายอากาศที่ทำได้ไม่ดีนัก กระแสลมอ่อน และสภาพอากาศเย็นในตอนเช้า ส่งผลให้ฝุ่นสะสมตัวได้มาก

กทม. ฝุ่นเกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่

ในขณะที่ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 ณ 07:00 น โดยค่าเฉลี่ยฝุ่น PM 2.5 ในรอบ 24 ชั่วโมงพบว่า

ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน จ.ปทุมธานี กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ จ.เชียงราย จ.น่าน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา จ.สุพรรณบุรี จ.ราชบุรี จ.สมุทรสงคราม จ.เพชรบุรี จ.ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี จ.ตราด จ.ชุมพร จ.หนองคาย จ.เลย จ.อุดรธานี จ.นครพนม จ.หนองบัวลำภู จ.สกลนคร จ.มุกดาหาร จ.ขอนแก่น จ.กาฬสินธุ์ จ.มหาสารคาม จ.ร้อยเอ็ด จ.อำนาจเจริญ จ.ชัยภูมิ จ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี จ.ศรีสะเกษ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ และ จ. สุรินทร์

สำหรับสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในรายภาคนั้น

• ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 14 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 10.9 – 59.0 มคก./ลบ.ม.
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 34.5 – 73.0 มคก./ลบ.ม.
• ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 27.5 – 81.4 มคก./ลบ.ม.
• ภาคตะวันออก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 34.7 – 72.5 มคก./ลบ.ม.
• ภาคใต้ เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 19.5 – 43.2 มคก./ลบ.ม.
• กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ​ ​กทม. เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 39.6 – 71.7 มคก./ลบ.ม.

คุณอาจจะสนใจเรื่องนี้
– พื้นที่ปลอดภัยจาก PM 2.5 ไม่ถึง 1% และผู้ที่หายใจในอากาศที่ปลอดภัยมีเพียง 0.001% เท่านั้น

…

กรุงเทพฯ แนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง

ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ขอรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 07:00 น. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 56.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ลดลงจากเมื่อวานที่ผ่านมาเล็กน้อย แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงเทพฯ ยังคงมีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน อยู่ในระดับสีส้มในทุกเขต

โดย 12 อันดับ ของค่าฝุ่นPM2.5 เขตสูงสุดในกรุงเทพมหานคร คือ

1. เขตหนองจอก 70.7 มคก./ลบ.ม.
2. เขตลาดกระบัง 70.6 มคก./ลบ.ม.
3. เขตทวีวัฒนา 68.6 มคก./ลบ.ม.
4. เขตหนองแขม 68.2 มคก./ลบ.ม.
5. เขตคันนายาว 66.9 มคก./ลบ.ม.
6. เขตบึงกุ่ม 66.6 มคก./ลบ.ม.
7. เขตมีนบุรี 66.6 มคก./ลบ.ม.
8. สวนหนองจอก เขตหนองจอก 66.6 มคก./ลบ.ม.
9. เขตคลองสามวา 65.8 มคก./ลบ.ม.
10. เขตวังทองหลาง 65.3 มคก./ลบ.ม.
11. เขตบางนา 64.8 มคก./ลบ.ม.
12. เขตบางกอกน้อย 63.3 มคก./ลบ.ม.

…

10 จุดค่าฝุ่นสูงสุดในไทย

สำหรับ 10 จุดที่มีรายงานค่าฝุ่นละออง PM 2.5 สูงที่สุดในประเทศเมื่อเวลา 08.00 น.จากรายงานของ ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แก่

* ค่าฝุ่นละอองเป็นไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

…

จุดความร้อนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกัมพูชา

สำหรับรายงานจุดความร้อน ของ GISTDA พบว่า เมื่อวานที่ผ่านมาทั้งวัน ( 1 ก.พ. 2568) พบว่า จำนวนจุดความร้อนในภูมิภาคยังคงเพิ่มสูงขึ้น โดยพบทั้งหมด 5202 จุด เพิ่มขึ้นอีก 932 จุด โดยเฉพาะในกัมพูชาที่พบจุดความร้อนเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าจำนวน 709 จุด และเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 ต่อเนื่อง

• กัมพูชา 2641 จุด (เพิ่มขึ้นจาก 1932 จุด)
• ไทย 915 จุด (ลดลงจาก 959 จุด)
• ลาว 710 จุด (เพิ่มจาก 382 จุด)
• เมียนมาร์ 655 จุด (ลดลงจาก 926 จุด)
• เวียดนาม 279 จุด (เพิ่มขึ้นจาก 64 จุด)
• มาเลเซีย 2 จุด (ลดลงจาก 7 จุด)