นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการ รมว.อุตสาหกรรม และโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยเกี่ยวกับกรณีการตั้งค่าหัวเพื่อโยกย้ายตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ว่า ในวันแรกที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้ประกาศเซฟอุตสาหกรรมไทย แต่ต่อมา 5 เดือนให้หลัง กลายเป็นประชาชนต้องประกาศช่วยเซฟ รมว.อุตสาหกรรมแทนที่ สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะการทำงานแบบ ปะ ฉะ ดะ และเอาจริงเอาจังพร้อมพังโรงงานเถื่อนข้ามชาติ ทำให้ถูกกลุ่มทุนอุตสาหกรรมสีเทาต้องลงขันจ่าย 300 ล้านเพื่อสกัดเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สำหรับเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมมีมูลค่าเท่าใด ขึ้นอยู่กับทางเลือกของคนทำงาน ทางเลือกแรก หากนั่งเก้าอี้ รมว.อุตสาหกรรม เพื่อช่วยฟอกขาวโรงงานต่างชาติ รับเคลียร์โรงงานที่ทำผิด พร้อมทั้งล็อกสเปคให้ใบอนุญาตพวกพ้อง มูลค่าของผลประโยชน์อาจจะ 300 ล้านหรือมากกว่า ทางเลือกที่สอง หากนั่งเก้าอี้ รมว.อุตสาหกรรม เพื่อบังคับใช้กฎหมาย ลงโทษคนทำผิด เพื่อให้โรงงานสีขาว ธุรกิจในประเทศไปต่อได้, ปฏิเสธความช่วยเหลือที่สร้างความเสียหายให้ประเทศ, ปิดโรงงานน้ำตาล, จับสินค้าไม่ได้มาตรฐานเอาเปรียบผู้บริโภค ผลปรโยชน์บนเก้าอี้ตัวนี้ย่อมคือ 0 บาท แถมมีศัตรูผู้มีอิทธิพลอีกเพียบ
แต่ทางเลือกที่ 2 จะสร้างมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมในประเทศ, SME, เซฟความเป็นอยู่ให้กับประชาชนอย่างประเมินค่ามิได้ หลังถูกข่มขู่ตนในฐานะเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยืนยันว่ากำลังใจของผู้ชายชื่อเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ และทีมงานไม่มีเกรงกลัว พร้อมจะสู้รบอย่างเต็มที่ ไม่ยอมก้มหัวให้กับธุรกิจสีเทาที่เอาเปรียบประเทศ ไม่จำนนกับการทุจริตคอร์รัปชันกลั่นแกล้งคนที่สู้เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้ประชาชนคนไทย
นอกจากนี้จะใช้ความอยุติธรรมที่เห็นเหล่านี้เป็นบันได ยกระดับการทำงาน ควบคุมภาคอุตสาหกรรมให้ใสสะอาด โปร่งใส รับใช้ประชาชน อย่างที่ทีมสุดซอยยังเดินหน้ากวาดล้างทุนเทา โรงงานเถื่อนแบบไม่มีวันหยุด ล่าสุดก็ปิดโรงงานขนขยะอิเล็กทรอนิกส์ผิดกฎหมายที่ฉะเชิงเทราเพิ่มอีก 3 โรงงาน
.”ทุนสามานย์ อำนาจมืด อิทธิพลแทรกแซง สิ่งเหล่านี้คือศัตรูที่เซาะกร่อนบ่อนทำลายบ้านเมือง ระบบราชการ และอุตสาหกรรมไทย ในขณะที่ชายบนเก้าอี้ยังชื่อเอกนัฏเราพร้อมพังให้หมดไปซะที เก็บเงิน 300 บาทไปชอปปิ้งเก้าอี้ที่บ้านพี่เถอะครับ” นายพงศ์พล กล่าว
