สถานการณ์ล่าสุด ตั้งแต่วานนี้ 30 พฤศจิกายน 2567 จนถึง ช่วงเช้าของวันนี้ 1 ธันวาคม 2567 หลังฝนหยุดตกหนัก ปริมาณน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ ได้ลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติบางพื้นที่ พื้นที่น้ำท่วมหนักสุดในพื้นที่ ต.ท่าสาป ต.หน้าถ้ำ และ ต.ยุโป หลังน้ำเริ่มลด รถยนต์ของประชาชนที่หนีน้ำไม่ทัน นับ 100 คัน จอดจดน้ำท่วม ล้มพลิก ด้วยความแรงของกระแสน้ำ นับเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งหนักสุดที่เคยเกิดขึ้นมา ในรอบกว่า 30 ปี
ขณะที่ในเขตเทศบาลนครยะลา ย่านตลาดเก่ายะลา มีเฉพาะตามซอยที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำยังมีน้ำท่วมขัง รวมทั้งตลาดเมืองใหม่บางจุดน้ำลดลง บางจุดน้ำยังท่วมสูง ส่วนพื้นที่ชุมชนบ้านร่ม ชุมชนสะเตง ชุมชน สาย 15 และชุมชนอื่นๆ บางพื้นที่น้ำลดจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้วบางจุดยังมีน้ำท่วมขัง ชาวบ้านต่างเร่งฟื้นฟู ทำความสะอาดบ้านของตัวเอง หลังโดนน้ำท่วมขังนานถึง 4 วันแต่ยังไม่ยกสิ่งของจากที่สูง เฝ้าระวังฝนรอบใหม่ ในเขตเทศบาลนครยะลา ซึ่งมีประชาชนใน ต.สะเตง ได้รับผลกระทบ จำนวนถึง 33 ชุมชน 2,760 ครัวเรือน 11,040 คน
ขณะที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จังหวัดยะลาได้รายงาน สถานการณ์ในพื้นที่ หลังจากได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดะลา ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ทำให้บ้านเรือน ทรัพย์สินของประชาชน สถานศึกษา พื้นที่การเกษตร และสิ่งสาธารถประโยชน์ได้รับความเสียหาย จำนวน 8 อำเภอ 58 ตำบล 358 หมู่บ้าน 45 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 43,168 ครัวเรือน 181,797 คน เสียชีวิต 2 ราย อพยพ 1,644 ครัวเรือน 5,375 คน (ยะหา รามัน และเมืองยะลา) ถนน 196 สาย สะพาน 10 แห่ง เสาไฟฟ้า 41 ต้น และโรงเรียน 169 แห่ง ขณะนี้ฝนในพื้นที่เริ่มหยุดตกหนัก ระดับน้ำเริ่มลดลง สถานการณ์ในพื้นพื้นที่เริ่มคลี่คลายแล้ว 5 อำเภอ คือ อำเภอบันนังสตา กาบัง กรงปินัง ธารโต และอำเภอเบตง สำหรับอำเภอยะหา เมืองยะลา และอำเภอรามัน ยังคงมีน้ำท่วมขัง เนื่องจากน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ โดย จ.ยะลา ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน(อุทกภัย) จังหวัดยะลา จำนวน 8 อำเภอ 58 ตำบล 352 หมู่บ้าน 46 ชุมชน 1 เทศบาลตำบล แนวโน้มสถานการณ์ฝนเริ่มหยุดตกหนัก ระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำปัตตานี และคลองสาขาเริ่มลดระดับลง