คัดลอก URL แล้ว
นำร่างผู้เสียชีวิตรายสุดท้าย ในเหตุถนนโครงสร้างฯ ถ.พระราม 2 ทรุดตัว ออกมาได้แล้ว!!

นำร่างผู้เสียชีวิตรายสุดท้าย ในเหตุถนนโครงสร้างฯ ถ.พระราม 2 ทรุดตัว ออกมาได้แล้ว!!

(30 พ.ย. 67 เวลา 07.30 น.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รับแจ้งจากทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมืองแห่งชาติ (USAR TEAM) ที่ปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายจากเหตุโครงเหล็กงานก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ทรุดตัวกันมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา โดยเมื่อเวลา 06.05 น. ได้พบผู้สูญหายรายสุดท้ายลักษณะถูกทับด้วยเหล็กขนาดใหญ่ และทำการนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากจุดเกิดเหตุได้เรียบร้อยแล้ว

สำหรับการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุโครงเหล็กงานก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ทรุดตัว ทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมืองแห่งชาติ (USAR Thailand) ได้รับมอบหมายให้ทำการค้นหาผู้สูญหายจำนวน 3 ราย ได้ดำเนินการค้นหาและนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้ครบทั้ง 3 ราย โดยรายแรกนำร่างออกมาได้ในเวลา 16.50 น. รายที่สองเวลา 19.50 น. ของวันที่ 28 พ.ย. 67 ส่วนรายที่สามซึ่งเป็นรายสุดท้ายสามารถนำร่างออกมาได้ในวันที่ 29 พ.ย. 67 เวลา 06.05 น. เสร็จสิ้นภารกิจด้านการค้นหาผู้สูญหายและเตรียมถอนกำลังส่งมอบพื้นที่ปฏิบัติการทางด้านโครงสร้างให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ยังคงปิดการจราจรช่องทางด่วน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้จำเป็นต้องปิดช่องทางด่วนบริเวณจุดเกิดเหตุทั้งขาเข้าและขาออกต่ออีกระยะ เพื่อความปลอดภัยและการเคลื่อนย้ายซากโครงสร้างต่าง ๆ ออกจากพื้นที่เกิดเหตุ

โดยนายชาครีย์ บำรุงวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรองโฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์คานสะพานก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ทรุดตัว ในช่องทางหลัก กม. ที่ 21+100 ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ทำให้ต้องปิดการจราจรในช่องทางหลักขาเข้า – ขาออกในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และช่วยแบ่งเบาปริมาณการจราจรบนถนนพระราม 2 กระทรวงคมนาคม จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนใช้เส้นทางเลี่ยง ดังนี้

ขาเข้ากรุงเทพฯ

ขาออกกรุงเทพฯ

พร้อมทั้งขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเผื่อเวลาในการเดินทาง และหากสามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางได้ขอแนะนำให้ใช้เส้นทางอื่นแทน เพื่อความสะดวกในการเดินทางของท่าน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ใช้ทางขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง โทร. 1586


ข่าวที่เกี่ยวข้อง