ตะวันออกกลางเดือด หลังอิหร่านเปิดฉากโจมตีอิสราเอล (คลิป)

สถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางดูจะเริ่มลุกลามมากยิ่งขึ้น หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่านได้เปิดฉากการโจมตีไปยังอิสราเอล โดยการใช้ขีปนาวุธจำนวนหลายร้อยลูก ซึ่งมีเป้าหมายหลายจุด รวมถึงที่ตั้งสำคัญทางทหารของอิสราเอลด้วย

โดยกองกำลังของอิหร่าน ได้ระบุถึงการโจมตีในครั้งนี้ว่า อิหร่านมีสิทธิในการโจมตีตอบโต้ต่ออิสราเอล เพื่อรักษาความมั่นคงในภูมิภาคนี้ ซึ่งอิหร่านอ้างถึงการที่อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในพื้นที่ของเลบานอนโดยกองกำลังภาคพื้นดิน

อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธมากกว่า 200 ลูกเข้าไปยังดินแดนของอิหร่าน และหากอิสราเอลเปิดฉากโจมตี นั่นจะทำให้อิสราเอลได้รับการโจมตีที่รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งประธานาธิบดีอิหร่าน ยังได้โพสต์ของความบน X (Twitter) ว่า ระบอบไซออนนิสต์ของอิสราเอล จะต้องได้รับการตอบโต้ จากการรุกรานที่เกิดขึ้น และอิหร่านมีสิทธิอันชอบธรรมในการรักษาความมั่นคงในภูมิภาคนี้

อิสราเอลเตรียมตอบโต้

ทางด้านของกระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลระบุว่า ขีปนาวุธจำนวน 181 ลูกมีเป้าหมายอยู่ในพื้นที่ชุมชน ซึ่งมีประชากรมากกว่า 10 ล้านคนอาศัยอยู่ ด้านนายกฯ เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลก็ได้ออกมาแถลงการณ์เตรียมตอบโต้อิหร่านด้วยท่าที่ที่แข็งกร้าวว่า

อิหร่านได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ในคืนนี้ และจะต้องชดใช้

เช่นเดียวกับเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า อิสราเอลจะดำเนินการตอบโต้ และอิหร่านจะรู้ถึงผลของการกระทำในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งการตอบโต้นั้นจะทำให้อิหร่านเจ็บปวดอย่างมาก

ในขณะที่ โฆษกกองทัพอิสราเอลกล่าวว่า การโจมตีในครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับความรุนแรงและอันตรายมากยิ่งขึ้น และอิสราเอลจะตอบโต้อิหร่านอย่างแน่นอน ส่วนรัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอลกล่าวว่า ใครที่โจมตีอิสราเอลจะต้องจ่ายอย่างมหาศาล

ด้านอดีตนายกฯ ของอิสราเอล นาฟทาลี เบนเน็ตต์ กล่าวว่า นี่คือโอกาสครั้งสำคัญในรอบ 50 ปีที่จะเปลี่ยนแปลงตะวันออกกลาง ในการทำลายโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน

หลายชาติออกมาประณามอิหร่าน

ทางด้านของสหรัฐฯ ก็ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า จะยืนเคียงข้างอิสราเอล ซึ่งการกระทำของอิหร่านนี้ จะทำให้เกิดผลกระทบอย่างแน่นอน และยืนยันว่า สหรัฐฯ จะทำงานร่วมกับอิสราเอล โดยก่อนหน้าที่จะมีการโจมตีเกิดขึ้น สหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณเตือนไปยังอิสราเอลว่า อาจจะมีการโจมตีเกิดขึ้น ก่อนหน้าที่อิหร่านจะเปิดฉากโจมตีไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งเรื่องนี้ ทางสหรัฐฯ ยังไม่ได้ให้ความเห็นใด ๆ ว่า สหรัฐฯ ได้รับคำแจ้งเตือน หรือ ได้ข้อมูลเหล่านี้มาได้อย่างไร

เช่นเดียวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอังกฤษ ที่ได้ออกมาระบุว่า อังกฤษ จะสนับสนุนอิสราเอล ในการปฏิบัติการเพื่อป้องกันไม่ให้ความรุนแรงในตะวันออกกลางขยายตัวออกไปอีก

ทางด้านของอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ได้ออกมาประณามถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และจำเป็นต้องหยุดเรื่องนี้ลง ซึ่งสหประชาติต้องการให้มีการหยุดยิงเด็ดขาด พร้อมทั้งมีการเรียกประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเป็นการฉุกเฉินด้วย

สหภาพยุโรปออกประณามการโจมตีอิสราเอลของอิหร่านอย่างรุนแรง ซึ่งการโจมตีที่เกิดขึ้นสุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรงในภูมิภาคในระดับที่ควบคุมไม่ได้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยับยั้งช่างใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

ทางด้านของฝรั่งเศสได้ออกมาประณามการกระทำของอิหร่าน และระบุว่า กองกำลังของฝรั่งเศสในตะวันออกลางจะร่วมกันต่อต้านภัยคุกคามที่เกิดขึ้นจากอิหร่าน อย่างไรก็ตามเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีของฝรั่งเศส ก็ออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยับยั้งช่างใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอให้อิสราเอลหยุดปฏิบัติการทางทหารด้วย เนื่องจากมีประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

หวั่นโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน

จากการโจมตีที่เกิดขึ้นของอิหร่านนั้น ทำให้ขีปนาวุธฟัตตาห์ ของอิร่านนั้นสามารถทะลุระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลได้ เนื่องจากความเร็วของขีปนาวุธที่เร็วกว่าระบบสกัดกั้น ในขณะที่กองทัพเรือสหรัฐฯ ในภูมิภาคดังกล่าว ได้ยิงสกัดกั้นได้ราว 12 ลูก

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายยังคงหวั่นวิตกต่อโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งหากอิสราเอลเลือกที่จะต้องโต้ไปยังพื้นที่โครงการเหล่านั้น ย่อมจะส่งผลกระทบอย่างมาก และนั่นมีความเป็นไปได้ที่อิสราเอล จะเลือกโจมตีไปยังโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน