กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นได้ยื่นคำขอการจัดสรรงบประมาณกลาโหมเป็นจำนวนเงิน 8.54 ล้านล้านเยน (ราว 1.98 ล้านล้านบาท) สำหรับปีงบประมาณ 2025 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์
รายงานระบุว่า คำขอที่ยื่นเสนอเมื่อวันศุกร์ (30 ส.ค.) เป็นการยื่นของบประมาณด้านการป้องกันประเทศที่มีตัวเลขทะลุ 8 ล้านล้านเยนเป็นครั้งแรก สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการยกระดับความสามารถทางทหารให้เข้มข้นยิ่งขึ้น
สื่อท้องถิ่นรายงานว่างบประมาณด้านการป้องกันประเทศสำหรับปีงบประมาณที่จะเริ่มต้นในเดือนเมษายนนั้น มุ่งเน้นเกี่ยวกับการกระตุ้น “ความสามารถในการตอบโต้” ของญี่ปุ่นอย่างมีนัยสำคัญ
กระทรวงฯ มีแผนจัดสรรเงิน 9.7 แสนล้านเยน (ราว 2.25 แสนล้านบาท) เพื่อยกระดับความสามารถในการป้องกันพิสัยไกลของญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงการติดตั้งและการผลิตขีปนาวุธพิสัยไกลหลายประเภทในจำนวนมาก
นอกจากนี้ กระทรวงฯ จะจัดสรรเงินเพิ่มเติมอีก 3.23 แสนล้านเยน (ราว 7.51 หมื่นล้านบาท) สำหรับการพัฒนาระบบกลุ่มดาวเทียม เพื่อมุ่งติดตั้งดาวเทียมขนาดเล็กหลายดวงที่สามารถตรวจจับและติดตามเรือรบ เรือ และขีปนาวุธ รวมถึงมีแผนลงทุนในการประจำการโดรนที่สามารถทำลายตัวเองได้ แก่กองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินของญี่ปุ่น เป็นจำนวนเงิน 3 พันล้านเยน (ราว 697 ล้านบาท)
หนังสือพิมพ์โตเกียว ชิมบุน (Tokyo Shimbun) ของญี่ปุ่นรายงานว่า ข้อเสนอขยายขีดความสามารถทางทหารของญี่ปุ่นครั้งนี้ ได้ก่อให้เกิดความกังวลทั้งในและต่างประเทศ เพราะการผลักดันขีดความสามารถในการโจมตีฐานทัพศัตรูของญี่ปุ่นนั้น ถือเป็นการผิดต่อรัฐธรรมนูญสันติภาพของญี่ปุ่นที่เขียนขึ้นหลังช่วงสงคราม ซึ่งยึดหลัก “นโยบายที่เน้นการป้องกันประเทศเท่านั้น”
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจก่อให้เกิดการแข่งขันด้านอาวุธในภูมิภาค ซึ่งอาจกระเทือนต่อเสถียรภาพของภูมิทัศน์ด้านความมั่นคงในภูมิภาค
เมื่อช่วงปลายปี 2022 รัฐบาลของฟูมิโอะ คิชิดะ ยังได้เร่งการปรับปรุงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและการป้องกันประเทศ 3 ฉบับ ซึ่งรวมถึงยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ แม้จะมีเสียงคัดค้านเป็นวงกว้าง
รัฐบาลญี่ปุ่นยังวางแผนจะจัดสรรเงินงบประมาณ 43 ล้านล้านเยน (ราว 10 ล้านล้านบาท) สำหรับค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2023-2027 ซึ่งคิดเป็นเกือบ 1.6 เท่าของเงินงบประมาณในช่วงระยะ 5 ปีก่อนหน้า
ที่มา – ซินหัว