ในช่วงปี 2567 นี้ประเทศญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงอยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ ช่วยดึงดูดเม็ดเงินเข้าประเทศไทยเป็นจำนวนมาก
นักท่องเที่ยว หรือชาวต่างชาติจะสามารถได้รับสิทธิในการยกเว้นจากการซื้อสินค้าในหลาย ๆ ประเภทตั้งแต่สินค้าทั่วไป เช่น เครื่องประดับ เครื่องใช้ภายในบ้าน รองเท้า หรือสินค้าอุปโภคต่าง ๆ เช่น สุรา อาหาร เครื่องสำอาง ตามเงื่อนไขในรูปแบบต่าง ๆ
จากการยกเว้นภาษีดังกล่าวทำให้กลายเป็นช่องโหว่ที่ชาวต่างชาติ หรือนักท่องเที่ยวฉวยโอกาสในการใช้มาตรการยกเว้นภาษีเหล่านี้ ในการซื้อสินค้าที่ปลอดภาษีในร้านค้าทั่วไปบางแห่งได้ง่าย เพียงแค่แสดงหนังสือเดินทาง
เช่น การซื้อเสื้อผ้าในแบรนด์ดังที่ได้รับความนิยมของญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถแสดงหนังสือเดินทาง และได้รับการยกเว้นภาษี 10% ทันที ซึ่งเปรียบเหมือนกับการได้ส่วนลด 10% ทันที ความสะดวกสบายนี้ จึงกลายเป็นของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ในการใช้สิทธิการยกเว้นภาษี นำไปซื้อสินค้าหรู และนำมาขายต่อภายในประเทศญี่ปุ่นเองจากช่องโหว่จากการคืนภาษีดังกล่าว และหากำไรจากการใช้สิทธิยกเว้นภาษี จากการสำรวจ มีการประเมินว่า เม็ดเงินภาษีของห้างฯ บางแห่งมีมูลค่าหลายร้อยล้านเยน
ทำให้มีการเตรียมศึกษาหาแนวทางในการปรับปรุงให้การยกเว้นภาษีนั้น มีขั้นตอนที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เพื่ออุดรูรั่ว เช่น อาจจะพิจารณาให้มีการขอคืนภาษีในจุดให้บริการที่สนามบิน หรืออาจจะมีการแก้ไขรูปแบบการยกเว้นภาษี และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการมาตรการยกเว้นภาษีในปี 2025 นี้ เพื่ออุดรอยรั่วที่เกิดขึ้นจากการใช้สิทธิยกเว้นภาษีของนักท่องเที่ยวที่ไม่ถูกต้อง