คัดลอก URL แล้ว
“เปลี่ยนม้ากลางศึก” ครั้งแรกในรอบ 50 ปี เลือกตั้งสหรัฐฯ “ไบเดนถอนตัว”

“เปลี่ยนม้ากลางศึก” ครั้งแรกในรอบ 50 ปี เลือกตั้งสหรัฐฯ “ไบเดนถอนตัว”

เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา บัญชี X (หรือ Twitter) ของนายโจ ไบเดน ได้ประกาศหนังสือถอนตัวจากการเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต ลงรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยในจดหมายของไบเดนนั้นได้ระบุว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานั้น รู้สึกภูมิใจที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ และนำสหรัฐฯ ไปสู่ความแข็งแกร่งในหลายด้าน และขอบคุณชาวอเมริกันที่ให้ความร่วมมือในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และนับเป็นเกียรติอย่างที่สุดในชีวิตที่ได้รับใช้ในฐานะของประธานาธิบดี

ไบเดนได้กล่าวในจดหมายว่า การถอนตัวที่เกิดขึ้นนี้จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อพรรคและประเทศ แม้ว่าจะอยู่ในระหว่างการเตรียมการเลือกตั้งในครั้งใหม่นี้ก็ตาม

ในเวลาต่อมา ไบเดน ได้ทวีตข้อความอีกหนึ่งข้อความและได้ระบุว่า ตัวแทนของพรรคเดโมแครตที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งครั้งนี้ คือ กมลา แฮร์ริส เป็นรองประธานาธิบดี และได้ตัดสินใจเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว

ซึ่งนับจากนี้เป็นต้นไป ไบเดน จะยังคงอยู่ดำรงตำแหน่งในฐานะประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ต่อไป จนสิ้นสุดการเลือกตั้ง

“เปลี่ยนม้ากลางศึก” ครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปี

การเปลี่ยนตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีของเดโมแครตในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปี นับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2511

ในครั้งนั้น ลินดอน จอห์นสัน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ และถูกวางให้เป็นตัวแทนของพรรค ในการลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ท่ามกลางปัญหาภายในพรรคจากประเด็นของสงครามเวียดนาม

ก่อนที่ในเวลาต่อมา ลินดอน จอห์นสัน ก็ได้ประกาศไม่ลงรับสมัคร ส่งผลให้ทางพรรคเดโมแครตต้องส่ง รองประธานาธิบดีฮิวเบิร์ต ฮัมฟรีย์ ลงสนามในศึกชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ แทน

สุขภาพ? ผลงาน?

หลายฝ่ายต่างคาดการณ์เหตุผลไปต่าง ๆ นานา แต่ในจดหมายของไบเดน ก็ได้ไม่ระบุถึงสาเหตุที่ชัดเจน โดยก่อนหน้านี้ ในพรรคเดโมแครตก็ได้สมาชิกบางส่วนออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยในการส่ง โจ ไบเดน เป็นตัวแทนของพรรคในการลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ อีกสมัย โดยมองว่า การส่งไบเดนลงสนามเลือกตั้งนั้น จะไม่ช่วยให้พรรคสามารถดึงฐานเสียงคนรุ่นใหม่ได้

บางส่วนมองว่า ที่ผ่านมา ไบเดน มีปัญหาหลายอย่าง มีความไม่พร้อมหลายอย่าง มีอาการหลงลืม ไม่แข็งแรงที่จะต่อกรกับทรัมป์ได้ และสิ่งที่หลายคนเป็นห่วงก็เกิดขึ้น

ในการดีเบตเมื่อปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ไบเดน ดูจะไม่พร้อมในการดีเบตร่วมกับทรัมป์ ที่ไบเดนกลายเป็นภาพของผู้ที่ไม่แข็งแรง สับสนในเนื้อหา ไม่สามารถตอบโต้กับทรัมป์ได้ หรือแม้แต่สร้างความน่าสนใจให้กับตัวไบเดนเองได้ จนทำให้หลายฝ่ายที่เฝ้าชมการดีเบตในครั้งนี้มองว่า

ไบเดน ในอายุ 81 ปี อาจจะแก่เกินไป
สำหรับการที่จะทำหน้าที่ประธานาธิบดีแล้ว

และยังไม่นับกระแสการสนับสนุนทรัมป์ ที่เกิดขึ้นภายหลังจากการลอบสังหารที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ที่กำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ท่ามกลางความคลุมเครือของกระแสข่าวการทำงานที่ผิดพลาดของหน่วย Secret Service และแน่นอน หลายคนก็เชื่อมโยงไปประเด็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ โจ ไบเดน

การเปลี่ยนตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งฯ เป็น รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ก็มีกระแสการสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นจากสมาชิกของพรรคเดโมแครต รวมถึงผู้สนับสนุนพรรคจำนวนไม่น้อยแสดงความดีใจ ที่มีการเปลี่ยนตัว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง