คัดลอก URL แล้ว
กรมกิจการเด็กฯ ย้ำ คุ้มครองเด็กเป็นหน้าที่ หลังครอบครัวเชื่อมจิตร้อง ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

กรมกิจการเด็กฯ ย้ำ คุ้มครองเด็กเป็นหน้าที่ หลังครอบครัวเชื่อมจิตร้อง ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เผยความคืบหน้าภายหลังจากเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 กรมกิจการเด็กและเยาวชนได้รับหนังสือร้องเรียนและขอความเป็นธรรมจากครอบครัวเด็ก 8 ขวบ กรณีเจ้าหน้าที่ พม. สุราษฎร์ธานี ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งกรมกิจการเด็กและเยาวชน จะได้สอบข้อเท็จจริงและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

กรมกิจการเด็กและเยาวชน มีภารกิจหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 เพื่อให้เด็กได้รับการอุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน และมีพัฒนาการที่เหมาะสม รวมทั้งป้องกันมิให้เด็กถูกทารุณกรรมตกเป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ หรือถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ซึ่งจากกรณีที่เกิดขึ้นกรมกิจการเด็กและเยาวชนมอบหมายให้ทีม พม. สุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงและประเมินสภาวะของเด็กและครอบครัว แต่เนื่องจากครอบครัวยังไม่พร้อมจึงมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 (พม. สุราษฎร์ธานี) ยื่นคำร้องขอต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี กรณีไต่สวนฉุกเฉินเพื่อให้ออกคำสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก ใน 2 ประเด็นคือ

1) ยุติการใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์
2) ให้ผู้ปกครองร่วมมือในการกำหนดแผนและวิธีการในการเลี้ยงดูเด็กร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

โดยได้ยื่นเรื่องต่อศาลฯ กรณีไต่สวนฉุกเฉิน ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ซึ่งศาลฯ ยกคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉิน และให้เป็นการไต่สวนปกติในวันที่ 17 มิถุนายน 2567

กรมกิจการเด็กและเยาวชน เน้นย้ำเจตนารมณ์ในการปกป้องคุ้มครองเด็กตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กและพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ที่ทุกฝ่ายจะต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นลำดับแรก โดยไม่ลงความเห็นว่าเด็กถูกเลี้ยงดูไม่เหมาะสม หรือเด็กไม่ปกติ จนกว่าจะได้รับการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองและไม่ตีตราเด็ก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำสั่งศาลในวันที่ 17 มิถุนายน 2567 หากศาลสั่งให้ผู้ปกครองให้ความร่วมมือในการกำหนดแผนและวิธีการในการเลี้ยงดูเด็กร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมกิจการเด็กและเยาวชนจึงจะสามารถประเมินและกำหนดแผนและวิธีการในการเลี้ยงดูเด็กร่วมกับผู้ปกครองต่อไป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง