รัฐบาลของฟินแลนด์ได้ประกาศปรับอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT. จากเดิม 24% เป็น 25.5% ในวันที่ 1 กันยายนนี้ โดยทางภาครัฐให้ความเห็นว่า การขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นหนึ่งในแนวทางการลดค่าใช้จ่ายของรัฐ และเพิ่มการหารายได้เข้ามามากขึ้น ซึ่งการขึ้นภาษีเป็นหนึ่งในแนวทางที่จะปูทางไปสู่การสร้างสมดุลทางการเงินของประเทศเพื่ออุดช่องว่าง และสร้างความยั่งยืนในระยะยาว
สำหรับการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มในครั้งนี้ จะช่วยเติมเงินเข้าสู่คลังของรัฐได้มากกว่า 1 พันล้านยูโรต่อปี ท่ามกลางเสียงคัดค้านจำนวนมากที่คาดว่า จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ที่จะต้องเผชิญกับค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น
ในขณะที่สินค้าบางชนิดเช่น ช็อกโกแลต ก็จะมีการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม จากเดิมที่อยู่ในระดับ 14% เป็น 25.5% ส่วนสินค้าเช่น น้ำอัดลม ยาสูบ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางชนิดจะมีการปรับภาษีเพิ่มเติมจากปรกติ
อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลฟินแลนด์ระบุว่า จะมีการคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ค่าอาหารในร้านอาหารไว้ที่ 14% รวมถึงคงภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ที่ 10% สำหรับสินค้าจำพวกเวชภัณฑ์ ที่พัก หนังสือ เป็นต้น
ลดค่าใช้จ่าย สุขภาพ – การศึกษา แต่ไม่ลดงบทหาร
รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของฟินแลนด์ได้มีการเสนอให้ปรับลดงบประมาณด้านสาธารณสุขและการศึกษาบางส่วน เช่นมาตรการปรับลดพนักงานด้านสาธารณสุขลง โดยให้สัดส่วนระหว่างพยาบาล 6 คน ต่อผู้ป่วย 10 คน, การบริการฉุกเฉินและศูนย์บริการเฉพาะทางจะมีการปรับลดขนาดลง และรวมเป็นศูนย์กลางให้บริการมากขึ้น ในขณะที่งบประมาณด้านการศึกษานั้นจะปรับลดลงราว 100 ล้านยูโร สำหรับสถานบันฝึกสอนสายอาชีพ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลฟินแลนด์ยังคงไม่มีแผนที่จะลดงบประมาณกองทัพ ตำรวจ หรือกองกำลังป้องกันชายแดนของฟินแลนด์แต่อย่างใด