ทางการญี่ปุ่นได้ประกาศอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ในไตรมาสแรกของปี 2024 นี้ หดตัวลง ติดลบ 2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2023 และหดตัวลง ติดลบ 0.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
ซึ่งถือเป็นการหดตัวที่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยตัวเลขประมาณการ GDP ของญี่ปุ่นจะหดตัวลง ติดลบ 1.5% เมื่อเทียบกับก่อนหน้า และ 0.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
โดยเมื่อพิจารณาในรายการต่างๆ แล้วพบว่า การบริโภคภาคเอกชนหดตัว ลดลง 0.7% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่า จะลดลงราว 0.2% นับเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน รวมถึงเป็นการลดลงติดต่อกันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552
ส่วนยอดขายรถยนต์นั้นมีจำนวนลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้ผลิตรถยนต์ระงับการผลิตและจัดส่งสินค้า เนื่องจากปัญหาการโกงผลการทดสอบความปลอดที่เกิดขึ้น ส่งผลให้มีการระงับการผลิตชิ้นส่วน และลุกลามไปถึงการผลิตรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ของญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องกับรายงานดังกล่าว ซึ่งตัวเลขการส่งออกของญี่ปุ่น ลดลง 5.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
ส่วนตัวเลขด้านการท่องเที่ยวนั้น ถือเป็นปีที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก โดยตัวเลขล่าสุดนั้น เดือนเมษายนที่ผ่านมา ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไปในประเทศญี่ปุ่นทะลุ 3 ล้านคนเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม จากตัวเลขในภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น ยังคงไม่ช่วยให้ตัวเลขดีขึ้น จากการส่งออกที่ลดลง
หลายฝ่ายต่างจับตาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เนื่องจากตัวเลขที่เกิดขึ้นส่งสัญญาณว่า การเติบโตของญี่ปุ่นกำลังชะลอตัว ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ และค่าเงินเยนที่ยังคงอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 34 ปี
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายยังคงคาดหวังว่าว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะกลับมาฟื้นตัวได้ในไตรมาสนี้ได้ เนื่องจากอัตราค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจกลับมาได้ แม้จะยังมีความไม่แน่นอนอยู่ก็ตาม