สภาพอากาศที่ร้อนจัดในพื้นที่ภาคกลาง ทำให้ไก่ไข่ในหลายฟาร์มประสบปัญหาผลผลิตลดลงและยังพบว่า แม่ไก่ยืนกรงตายเพิ่มขึ้นเนื่องจากอากาศร้อนจัดทั้งกลางวันและกลางคืน
อากาศร้อนกระทบไก่ไข่ยืนกรงตาย
เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ในพื้นที่ ตำบลคุ้งพยอม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ต้องเก็บซากไก่ไข่ที่ตายคากรง หลังสภาพอากาศร้อนทะลุ 40 องศาเซลเซียส แม้จะใช้ระบบสปริงเกอร์พ่นน้ำบนหลังคา เพื่อระบายความร้อน ลดอุณหภูมิภายในโรงเรือน แต่ก็ช่วยได้ไม่มากนัก
นาย รังสรรค์ ตู้แก้ว เกษตรกร เปิดเผยว่า เลี้ยงไก่ไข่บนบ่อปลามาแล้ว 30 ปี ที่ผ่านมาเคยเลี้ยงไก่ไข่มากถึง 6,000 ตัวต่อโรงเรือนต่อรอบ แต่ปัจจุบันลดปริมาณเลี้ยงไก่ลงเหลือประมาณ 1,500 ตัว แต่ในช่วงนี้กำลังประสบกับปัญหาสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงเวลากลางวัน ทำให้ไก่ทยอยยืนกรงตายวันละ 2–3 ตัว ทำให้ตั้งแต่ต้นฤดูร้อนถึงปัจจุบันไก่ตายไปแล้วกว่า 300 ตัว
ส่วนผลผลิตไข่ไก่ก็หายไปถึงร้อยละ 30 รวมไปถึงไข่ที่ได้ขนาดก็เล็กลง จากที่เคยได้ไข่คละขนาดเบอร์ 0 – 2 เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันเหลือเพียง เบอร์ 3 – 5 บางฟองหลุดขนาดขายไม่ได้ ต้องเอาไปแจกให้คนรู้จัก
นอกจากนี้ ปั๊มน้ำสปริงเกอร์ยังทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จากเดิมที่ 1 พันกว่าบาท ปัจจุบันขึ้นไป 2 พันกว่าบาท ดังนั้นการปรับราคาไข่ไก่ขึ้นในช่วงที่ผ่านมา หากมองในมุมของผู้เลี้ยง เมื่อหักลบต้นทุนก็แทบจะไม่เหลือกำไร
ฟาร์มไก่ไข่ปรับตัวลดความร้อนในโรงเรือน
เช่นเดียวกับเกษตรผู้เลี้ยงไก่ไข่ ในจังหวัดอ่างทอง ที่ต้องปรับตัวเพื่อแก้ปัญหาอากาศร้อน ด้วยการให้วิตามินผสมอาหาร เพิ่มการให้น้ำและลดอุณหภูมิโรงเรือนด้วยการติดสปริงเกอร์น้ำทั่วทั้งโรงเรือนเพื่อลดความร้อน
เจ้าของฟาร์ม บอกว่า อากาศในพื้นที่แปรปรวนทำให้ประสบปัญหาหลายเรื่องโดยเฉพาะช่วงที่ร้อนจัด ทำให้แม่ไก่เกิดความเครียดสะสม กินอาหารน้อยลงกินแต่น้ำ ทำให้ไข่ลดลงและแม่ไก่โทรม ปกติเคยเก็บไข่ได้ช่องละ 10-11 ถาด ถาดละ 30 ฟอง ลดลงไปเหลือเพียง 7-8 ถาดเท่านั้น
เจ้าของฟาร์ม ยังบอกด้วยว่า ที่ผ่านมาช่วยเหลือตัวเองมาตลอด เพราะเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ปีนี้อาการร้อนจัดทำให้มีผลกระทบเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเกษตรกรต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด