คัดลอก URL แล้ว
บราซิลน้ำท่วมหนัก-ดินถล่ม ผู้เสียชีวิต-สูญหายพุ่ง เร่งอพยพปชช.

บราซิลน้ำท่วมหนัก-ดินถล่ม ผู้เสียชีวิต-สูญหายพุ่ง เร่งอพยพปชช.

สถานการณ์น้ำท่วมในรัฐรีโอกรันดีโดซูล ที่อยู่ทางตอนใต้ของบราซิลยังคงวิกฤติ หลังจากที่ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ และมีดินถล่มลงมาซ้ำ ส่งผลให้ในขณะนี้ มียอดผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 56 ราย และมีผู้สูญหายอีกเกือบ 70 ราย

ซึ่งในขณะนี้ มีรายงานว่า เมืองเกือบครึ่งหนึ่งของรัฐรีโอกรันดีโดซูลได้รับความเสียหายจากพายุฝนที่พัดถล่มในครั้งนี้ มีถนนและสะพานได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ประชาชนราว 2.5 หมื่นรายต้องอพยพออกมาอยู่ในจุดที่ปลอดภัย นอกจากนี้ มีประชาชนอีกอย่างน้อย 5 แสนคนที่ไม่มีไฟฟ้าและน้ำสะอาด และยังคงมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังคงรอความช่วยเหลือจากทางการ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ถูกตัดขาดโดนสิ้นเชิง เนื่องจากไม่มีไฟฟ้า สัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตไม่สามารถใช้การได้

โดยเหตุการณ์น้ำท่วมบราซิลในครั้งนี้ ถือเป็นวิกฤติครั้งที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 80 ปีของประเทศ นับตั้งแต่ปี 1941 จากปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา

หวั่นเขื่อนแตกเป็นแห่งที่สอง

ฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่องในส่งผลให้น้ำหลากเข้าท่วมในหลายพื้นที่ และยังทำให้เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำแห่งหนึ่งใกล้กับเมืองเบนโต กอนซัสเวส พังเสียหาย จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดินถล่มและเขื่อนแตกในครั้งนี้ถึง 30 ราย จากปริมาณน้ำในเขื่อนที่ทะลักออกมาสูงเกือบ 2 เมตร หลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาน

เจ้าหน้าที่ของรัฐฯ ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์เขื่อนอีกแห่งหนึ่งที่ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และเสี่ยงต่อการที่จะพังทลายเป็นแห่งที่สอง ท่ามกลางระดับน้ำในแม่น้ำที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นและหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ด้านสนามบินนานาชาติปอร์ตูอาเลเกรต้องปิดให้บริการอย่างไม่มีกำหนด

ภาพ – Brigada Militar-RS

ผลกระทบจากโลกร้อน-เอลนีโญ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ หลายฝ่ายระบุตรงกันว่า เป็นผลกระทบจากสภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้น ร่วมกับปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่ส่งผลให้อุณหภูมิของผิวน้ำบริเวณเส้นศูนย์สูตรในมหาสมุทรแปซิฟิกอุ่นมากกว่าปรกติ ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้งในบริเวณภาคเหนือ และเกิดฝนตกหนักในภาคใต้ของประเทศ

นอกจากนี้ ผลกระทบยังเห็นได้ชัดเจนจากสภาพความแห้งแล้งอย่างรุนแรงในบริเวณป่าอะเมซอน ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ มีแนวโน้มที่จะรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นกับโลกของเรา

https://twitter.com/MariaOl22323226/status/1786701690713829584

ข่าวที่เกี่ยวข้อง