กรณีที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนและตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง เนื่องจากพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์ โดยพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนคดีให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ช.) พิจารณาแล้ว
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่าในช่วงเดือนเมษายน พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรี โดยขอให้นายกสั่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้พนักงานสอบสวนส่งสำนวนคดีเว็บพนันบีเอ็นเค มาสเตอร์ไปยังสำนักงาน ป.ป.ช. และขอไม่ให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง เนื่องจากยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตามกฎหมาย
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า หากพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ไปรับทราบข้อกล่าวหาจากสถานีตำรวจนครบาลเตาปูนในช่วงที่ออกหมายเรียก อาจไม่ส่งผลรุนแรงมากนัก เพราะจะต้องรอกระบวนการยุติธรรมหรือสำนักงาน ป.ป.ช. พิจารณาคดีให้เสร็จสิ้นก่อน ในช่วงนั้นพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์อาจยังรับราชการได้ แต่เมื่อศาลอนุมัติหมายจับแล้ว จำต้องปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมายและวินัยข้าราชการ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ปฏิบัติต่อพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์เช่นเดียวกับข้าราชการทั่วไปที่ถูกกล่าวหาในกรณีแบบนี้ แม้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ยังมีช่องทางต่อสู้ด้วยข้อกฎหมายเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ แต่คำสั่งให้ออกจากราชการมีผลบังคับใช้แล้ว
สำนวนคดีที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ส่งให้สำนักงาน ป.ป.ช. ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน เพื่อสอบสวนบุคลากรสำนักงาน ป.ป.ช. 3 ราย ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันตกแต่งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของอดีตรอง ผบ.ตร. และภริยา ต้องติดตามว่าสำนักงาน ป.ป.ช. จะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงนี้เมื่อใด แม้นายสมบัติ ธรธรรม อดีตอนุกรรมการกลั่นกรองฯ จะลาออกไปแล้วก็ตาม
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. คนปัจจุบัน มีการเสนอปรับย้ายตำแหน่งบุคลากรของสำนักงาน โดยที่น่าสนใจคือการย้าย “นาย ว.” พนักงานไต่สวนรายหนึ่ง ที่มีชื่อร่วมคณะกับนายสมบัติและพวกในการไปจัดทำบัญชีทรัพย์สินของอดีตข้าราชการตำรวจระดับสูง แต่กรรมการ ป.ป.ช. บางคนคัดค้านการย้ายเนื่องจากเกรงว่าอาจไม่เหมาะสม และสงสัยว่าสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบบุคลากรตามสำนวนของ บก.ปปป. เสนอให้ปปช.ตรวจสอบพฤติกรรม หรือไม่ ดังนั้น หากย้าย บุคคลนี้ ตามที่เสนอมา น่าจะไม่เหมาะสม จึงมีมติให้ย้าย นาย ว. ไปสำนักกฎหมายแทน