กรุงเทพโพลล์ ชี้ ต้นปี 2567 ปชช.เห็นโอกาสหรือความพร้อมสำหรับการริเริ่มธุรกิจเพิ่ม 2.7% ส่วนสาเหตุที่ทำให้ไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจ เพราะว่าไม่มีเงินทุนมากพอ – กลัวขาดทุน – ข้าวของแพง ค่าครองชีพสูง ตามลำดับ
…
ผลสำรวจเรื่อง “คนไทยคิดอย่างไรกับโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจ ประจำไตรมาสแรกของปี 2567 ” จากการสำรวจประจำไตรมาสแรกของปี 2567 ประชาชนมองเห็นโอกาสสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคตเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2566 เป็นร้อยละ 52.3 จากเดิมร้อยละ 49.6 และมีความเห็นว่าไม่อยากลงทุนทำธุรกิจเพราะกลัวความล้มเหลว ลดลงเหลือร้อยละ 56.4 จากเดิมร้อยละ 64.6 ทั้งนี้ประชาชนร้อยละ 46.9 เห็นว่า สาเหตุที่ทำให้ไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง เพราะว่าไม่มีเงินทุนมากพอ
กรุงเทพโพลล์ร่วมกับคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความเห็นประชาชนเรื่อง “คนไทยคิดอย่างไรกับโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจ ประจำไตรมาสแรก ของปี 2567 ”โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,178 คน ระหว่างวันที่ 19-27 มีนาคม 2567 พบว่า
การสำรวจความเห็นเกี่ยวกับจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ (เจ้าของธุรกิจ) ประจำไตรมาสแรก ของปี 2567 ในประเด็นความพร้อมในการเริ่มทำธุรกิจ โดยได้ทำการเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งที่ผ่านมา (ช่วงเดือน ธ.ค.2566) ในประเด็นต่างๆ พบว่า
ประชาชนเห็นโอกาสหรือความพร้อมสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคตมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 52.3 (โดยเพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.7)
- รองลงมาคือ มีความตั้งใจที่จะประกอบธุรกิจ ในอนาคตข้างหน้า คิดเป็นร้อยละ 45.1 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 )
- มีความรู้ความสามารถรวมถึงทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็นในการที่จะเริ่มทำธุรกิจใหม่ คิดเป็นร้อยละ 44.6 (ลดลงร้อยละ 0.9)
- รู้จักผู้ประกอบการหรือมีเครือข่ายที่สามารถสนับสนุนในการริเริ่มธุรกิจ คิดเป็นร้อยละ 31.9 (ลดลงร้อยละ 9.4)
- คิดว่าการเริ่มต้นธุรกิจใหม่เป็นสิ่งที่ง่ายในสถานการณ์ขณะนี้ คิดเป็น 16.9 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2)
- ขณะที่เห็นว่าไม่อยากลงทุนทำธุรกิจเพราะกลัวความล้มเหลว คิดเป็นร้อยละ 56.4 (ลดลง ร้อยละ 8.2)
ส่วนประเด็นคำถาม เหตุที่ท่านไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวท่านเอง พบว่า สาเหตุที่ไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองมากที่สุด คือ ไม่มีเงินทุนมากพอ คิดเป็นร้อยละ 46.9 ส่วนสาเหตุรองลงมาประกอบไปด้วย
- กลัวล้มเหลว กลัวขาดทุน คิดเป็นร้อยละ 43.3
- ปัญหาข้าวของราคาแพง ค่าครองชีพสูง คิดเป็นร้อยละ 42.8
- คิดว่างานที่ทำอยู่มั่นคงแล้ว เลี้ยงตัวเองได้แล้ว คิดเป็นร้อยละ 29.3
- ขาดความรู้ ความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจ คิดเป็นร้อยละ 28.8
- น้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆ ราคาสูงขึ้น ร้อยละ 28.4
- ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำธุรกิจอะไรดี ร้อยละ 26.6
- หากไม่สำเร็จกลัวคนในครอบครัวจะเดือดร้อน แบกภาระหนี้ร่วมกัน ร้อยละ 23.0
- นโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำร้อยละ 19.2
- กลัวทำแล้วเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝัน เช่น โรคระบาด ภัยธรรมชาติ ร้อยละ 17.6
- คิดว่าสายเกินไปที่จะเริ่มต้นใหม่ ร้อยละ 15.3
- กลัวการเริ่มต้นว่าจะทำไม่ได้ ร้อยละ 10.1
- อื่นๆ อาทิ มีปัญหาสุขภาพ การเมืองยังไม่แน่นอน เศรษฐกิจไม่ดี ฯลฯ ร้อยละ 7.7