เมื่อวันพฤหัสบดี (28 มี.ค.) สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) เปิดเผยว่าผู้คนมากกว่า 1.1 ล้านคนในฉนวนกาซากำลังเผชิญ “ความไม่มั่นคงทางอาหารระดับรุนแรง” ขณะที่อิสราเอลยังคงขัดขวางการเข้าให้ความช่วยเหลือในฉนวนกาซา
สำนักงานฯ กล่าวย้ำถึงความจำเป็นในการจัดสรรความช่วยเหลือด้านอาหารที่เพียงพอผ่านเส้นทางภาคพื้นดินเพื่อช่วยชีวิตผู้คน โดยเฉพาะในพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา เนื่องจากขณะนี้ยังคงมีอุปสรรคในการเข้าถึง แต่เวลากลับเหลือน้อยลงทุกที
ขณะเดียวกัน เมื่อวันพฤหัสบดี (28 มี.ค.) หน่วยงานทางการแพทย์ประกาศพบเด็กหนึ่งรายเสียชีวิตในเมืองเบตลาเฮียทางตอนเหนือของฉนวนกาซา เนื่องด้วยความอดอยากและขาดการรักษาพยาบาล ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากภาวะทุพโภชนาการในฉนวนกาซาเพิ่มเป็น 30 ราย
อนึ่ง อิสราเอลทำการโจมตีกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาขนานใหญ่ เพื่อตอบโต้กรณีกลุ่มฮามาสโจมตีพื้นที่ทางตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2023 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 ราย และผู้ถูกจับเป็นตัวประกันมากกว่า 250 ราย
ด้วยเหตุนี้ ฉนวนกาซาซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ราว 2.35 ล้านคน จึงกำลังเผชิญกับสภาวะด้านมนุษยธรรมที่ยากลำบาก ท่ามกลางคำเตือนเรื่องความอดอยากจากนานาชาติ
ขณะเดียวกัน กระทรวงกิจการต่างประเทศและผู้พลัดถิ่นของปาเลสไตน์ เตือนถึงอันตรายจากการที่อิสราเอลปฏิเสธที่จะดำเนินการตามมติล่าสุดของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่เรียกร้องการหยุดยิงทันทีในช่วงเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม
แถลงการณ์ของกระทรวงฯ เรียกร้องคณะมนตรีฯ ใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อดำเนินการตามมติดังกล่าวและบรรลุข้อตกลงหยุดยิงทันที เพื่อรับประกันการคุ้มครองพลเรือนและการเข้าช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างยั่งยืนในทุกพื้นที่ของฉนวนกาซา ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางทะเล
ที่มา – ซินหัวที่มา – ซินหัว