วันที่ 27 มีนาคม 2567 นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยในต่างแดน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “จักรภพ เพ็ญแข – Jakrapob Penkair” โดยระบุเนื้อหาว่า “วันพฤหัสบดีที่ 28 มี.ค. 2567 เวลา 07.35 น. จักรภพ เพ็ญแข กลับไปรับใช้ เมืองไทยครับ”
สำหรับจักรภพ เพ็ญแข ได้รับการแต่งตั้งเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ต่อมาไม่นาน ก็ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในนามพรรคไทยรักไทย แต่ไม่ได้รับเลือกถึง 2 ครั้ง ต่อมา นายจักรภพได้รับแต่งตั้งเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลทักษิณ 2
หลังจากคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ.2549 นายจักรภพ เป็นแกนนำจัดเวทีปราศรัยต่อต้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ขึ้นที่ท้องสนามหลวง ใช้ชื่อว่า “แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ” (นปก.)
จากนั้นในปี 2550 พรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง โดยมีสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2551 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายจักรภพดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่กำกับดูแลสื่อมวลชนภาครัฐ ในวันที่ 1 เม.ย.ปีเดียวกัน นายจักรภพ เป็นประธานในการเปลี่ยนแปลงสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 เป็น สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที)
อย่างไรก็ตาม นายจักรภพ มีบทบาทในการก่อตั้ง นปก.ก่อนมาเป็น นปช. ก่อนที่นายจักรภพตัดสินใจเดินทางออกนอกประเทศ ในช่วงเดือน เม.ย. 2552
ต่อมาเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 มีรัฐประหารในประเทศไทย คณะรักษาความสงบแห่งชาติออกคำสั่งที่ 49/2557 เรียกให้นายจักรภพไปรายงานตัว แต่นายจักรภพมิได้ไปตามคำสั่งดังกล่าว ศาลทหารจึงออกหมายจับข้อหาฝ่าฝืนการไปรายงานตัว และข้อหามีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง
และในวันที่ 7 ธ.ค. 2560 ศาลอาญาได้ออกหมายจับ ในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและเป็นอั้งยี่