วันที่ 8 มีนาคม 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยกำกับดูแลการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ ว่า ในขณะที่พักโทษ หากไม่นอนที่บ้านพักตามที่แจ้งต่อกรมควบคุมประพฤติก็ต้องขออนุญาตว่าจะเดินทางไปที่ไหนอย่างไร โดยจะต้องกำหนดวันเดินทางให้ชัดเจน หากไม่ได้ออกนอกประเทศก็สามารถขออนุญาตได้ และหากกรมควบคุมประพฤติอนุญาตก็สามารถเดินทางไปได้ รวมถึงหากร่างกายไม่แข็งแรงก็ต้องมีบุคคลเชี่ยวชาญด้านสุขภาพไว้คอยดูแลด้วย
นายสมศักดิ์ ยังระบุว่า สื่อมวลชนสามารถไปทำข่าว หรือสัมภาษณ์ได้ แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมควบคุมประพฤติ เนื่องจากการพักโทษมีคดีความที่แตกต่างกัน หากนักโทษทั่วไปครอบครัวก็จะต้อนรับ แต่หากเป็นคดีที่เกี่ยวกับยาเสพติด จี้ ปล้น ฆ่า บางครั้งสังคม หรือที่บ้านอาจจะไม่ค่อยต้อนรับ จึงต้องพยายามสร้างอาชีพให้กับนักโทษเหล่านี้ เพื่อให้สังคมยอมรับให้ได้ และบางคดีมีกฎหมาย ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำอยู่
ส่วนการเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ของนายทักษิณถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง และมีนัยยะสำคัญอย่างไรกับพรรคเพื่อไทย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะคิดอย่างไร เพราะนายทักษิณไม่ได้อยู่ในประเทศไทยถึง 17 ปี ก็เป็นเรื่องที่คิดถึง ทั้งคนอื่นคิดถึงท่านหรือท่านคิดถึงญาติพี่น้อง ลูกหลาน และเท่าที่ทราบนายทักษิณก็มีบรรพบุรุษที่จะต้องไปกราบไหว้ ส่วนจะให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมืองได้หรือไม่นั้น ต้องดูเงื่อนไขของกรมควบคุมประพฤติด้วย ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ดูรายละเอียด
นายสมศักดิ์ ยังย้ำว่า กรณีของนายทักษิณเป็นการปฏิบัติปกติเหมือนกับนักโทษทั่วไป แต่บางคนที่พักโทษแล้วไม่มีสื่อตามก็เลยไม่รู้ ซึ่งถือเป็นกรณีศึกษาให้กับผู้ต้องขังคนอื่นที่จะได้รู้ถึงประกาศ และกฎระเบียบของราชทัณฑ์ไปพร้อมกัน และไม่ห่วงว่าฝ่ายเห็นต่างจะนำเรื่องนี้มาโจมตีกับรัฐบาล เพราะสามารถตอบ และชี้แจงได้
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวว่า สส. พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้นัดหมายที่จะไปพบกับนายทักษิณที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงส่วนตัวก็ยังไม่ได้ไปพบกับนายทักษิณ ขณะนี้รอการตอบรับว่าจะได้เข้าพบเมื่อไหร่
ส่วนกรณีของนายทักษิณ ที่ยังป่วยหนักและเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นสถานที่ที่ฝุ่นเยอะจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า บางครั้งถ้า คนเรายังขยับตัวได้ก็มักจะคิดถึงบ้านเรือนที่เคยอาศัยอยู่ เช่นตนเองที่ไม่ได้กลับจังหวัดสุโขทัยมากว่า 1 เดือน เมื่อมีโอกาสก็จะกลับไป เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้นอนไม่หลับ ดังนั้นใครก็แล้วแต่ที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่ไหนก็อยากกลับไปหาญาติพี่น้อง เพราะถือเป็นความสุข
นายสมศักดิ์ยัง กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้อยากให้มองข้ามกรณีนายทักษิณว่าเป็นประเด็นการเมือง หรืออยากให้เป็นเรื่องปกติ เพราะใครจะมองอย่างไรก็ให้มองไป แต่ถ้าชี้แจง และตอบคำถามได้ ก็ชี้แจงแบ่งความรู้กันไป ไม่ต้องไปห่วงใครต่อใคร ถือเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน แต่การวิพากษ์วิจารณ์ต้องไม่ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น
ส่วนที่มีคนมองว่าศูนย์กลางทางการเมืองอยู่ที่นายทักษิณ หรือกระแสข่าวนายกรัฐมนตรี 2 คนนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่จะคิด แต่ขณะนี้เรามีนายกรัฐมนตรี ที่มีกฎหมายเป็นเครื่องมือในการสั่งการ หรือดำเนินงานต่างๆ แต่คนอื่นไม่มีเครื่องมือในการทำงานและบริหาร แต่จะไปห้ามคนอื่นไม่ให้พูดถึงประเด็นการเมืองไม่ได้ ก็ต้องทำใจ พร้อมขอบคุณที่ฝ่ายค้านจะหยิบยกประเด็นในทักษิณไปอภิปรายทั่วไปในสภา