“เศรษฐา” ย้ำ ค่าพลังงานถือเป็นเรื่องสำคัญ บอกจะทุบค่าไฟไม่สนใจการตลาดไม่ได้ มองจะเป็นรัฐประหารทางเศรษฐกิจ ยันขอเวลาเจราจากัมพูชาดึงขุมทรัพย์พลังงานพื้นที่ทับซ่อนใต้ทะเลมาใช้
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงาน “Thailand Energy Executive Forum พร้อมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “จุดเปลี่ยนพลังงานไทยสู่ความยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่า ถึงการหารือกับ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นประเทศที่เรามีความสัมพันธ์กันดี มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง และตนกับนายรัฐมนตรีกัมพูชาก็มีความสัมพันธ์อันดี มีการหารือในประเด็นชายแดน การค้า ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งการเจรจาอีกเรื่องที่สำคัญ คือ OCA หรือพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งมูลค่ามหาศาลขึ้นอยู่กับตัวเลขไหนที่คนพูดกันอาจพูดถึง 20 ล้านล้านบาทก็ได้แต่เราก็มีปัญหาเรื่องของชายแดนเรื่องเขตแดนอยู่เป็นเรื่องที่อ่อนไหวและหลายภาคส่วนให้ความสนใจกันอยู่ตนขอแบ่งเป็น 2 ส่วนคือพื้นที่ทับซ้อนกับเรื่องของขุมทรัพย์ที่อยู่ใต้ทะเล เรื่องนี้จะต้องมีการพูดคุยกันแลกเปลี่ยนกันซึ่งให้ความสำคัญสูงสุดกับเรื่องนี้ และจะพยายามนำสินทรัพย์เช่นนี้ออกไปใช้ได้เร็วที่สุดในการเปลี่ยนผ่าน Brown Energy ไปสู่ Green Energy ขอให้สบายใจว่าเราจะเดินหน้ากันต่อไปโดยพยายามแยกแยะระหว่างปัญหาพื้นที่ทับซ้อนและปัญหาเรื่องการแบ่งผลประโยชน์ แต่เรื่องนี้ต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้จะส่งผลต่อเรื่องราคาพลังงาน
นายกรัฐมนตรี ยังระบุถึง อีกว่าเรื่องค่าพลังงาน มีการสอบถามกันมาว่ามีกลไกอะไรบ้าง สามารถทำอะไรได้บ้างทั้งค่า PPA การขอใช้กฤษ ของโรงงานไฟฟ้าในปัจจุบัน and iknow กลไกตลาดจะไม่สามารถทำได้ พลังงานที่ผลิตขึ้นมาจะต้องมีผู้จ่ายอยู่ดีซึ่งอาจจะเป็นเงินของพวกเราทุกคนที่โอนกลับไปจ่ายให้กับผู้ผลิต ทำให้ต้องเก็บเงินกลับคืนอยู่ดี แต่ความเชื่อมั่นและความสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้ การทุบโดยไม่ต้องสนใจกลไกของการตลาด จะทำให้เกิดรัฐประหารทางเศรษฐกิจ เราอาจจะได้ค่าไฟถูกอยู่ไม่กี่วัน ก่อนที่จะควักเอาเงินของประชาชนมาจ่าย การลงทุนการส่งออกการจ้างงานอยู่ในใจของคนทั้งโลกไปนานนับปี ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกัน