คมกฤช นภาลัย ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล เตรียมยื่นหนังสือร้องเรียนถึงผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย หลังมองว่าการเลือกตั้งกรรมการบริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลขัดข้อบังคับรวมทั้งหมด 4 ข้อ
การเลือกตั้งชิงตำแหน่งนายกสมาคมครั้งนี้ คมกฤช แพ้ มาดามแป้ง อย่างขาดลอย หลังไม่ได้คะแนนเสียงจากสโมสรสมาชิกเลยสักเสียง ซึ่งทำให้เจ้าตัวเตรียมยื่นหนังสือร้องเรียนถึงผู้ว่า กกท. หลังมองว่าการเลือกตั้งกรรมการบริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลขัดข้อบังคับรวมทั้งหมด 4 ข้อ
1.การรับสมัครและการเสนอชื่อรับรองจากสโมสรสมาชิก ไม่เป็นไปตามข้อบังคับฯ ของสมาคมฯ ข้อ 30.3 เนื่องจาก กกต. ให้สมาชิกเพียง 3 ราย รับรองผู้สมัครทั้งคณะ 19 คน ทำให้เป็นการซ้ำซ้อนในการรับรองผู้สมัครในตำแหน่งเดียวกัน
2.การประกาศรับรองสโมสรสมาชิกให้มีสิทธิในการออกเสียง ซึ่งขัดต่อข้อบังคับฯ ของสมาคมข้อ 17 เนื่องจากการประกาศให้บางสโมสรที่ไม่ได้ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันในฤดูกาลนี้ มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ซึ่งสโมสรเหล่านี้ถูกระงับการเป็นสมาชิกภาพเพราะไม่ส่งทีมแข่งขัน
3.การรับรองสมาคมนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ ให้มีสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้ง เนื่องจากเพิ่งมีการรับรองในช่วงเช้า ก่อนจะได้สิทธิเลือกตั้งในช่วงบ่าย แต่ระเบียบข้อบังคับฯ ระบุว่า กกต. ต้องตรวจสอบคุณสมบัติให้นายทะเบียนกลางทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วันก่อนวันประชุมใหญ่ ตามระเบียบที่ กกท. กำหนด
4.การรับรองผู้สมัครตำแหน่งตุลาการคณะพิจารณาวินัย มารยาท มิได้เป็นไปตามข้อบังคับ เนื่องจากมีผู้สมัครรายหนึ่งทำงานเป็น ผู้ควบคุมการแข่งขัน, ผู้ประเมินผู้ตัดสิน ที่ทำหน้าที่ในการแข่งขันฤดูกาลปัจจุบัน ซึ่งผิดข้อบังคับฯ ข้อ 64 ย่อหน้า 4 ระบุว่าประธานกรรมการ, รองประธาน และกรรมการ จะต้องไม่ดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งในสมาคมฯ, บริษัท ไทยลีก หรือสโมสรสมาชิก ภายในระยะเวลา 4 ปีก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่ง
แต่ในมุมมองของ “ปูเป้” สมฤกษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา หนึ่งในโหวตเตอร์ที่ได้รับใบมอบอำนาจจากสโมสรโรงสีแม่ใจธนะโชติวัฒน์ มั่นใจว่า การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้ยุติธรรม และ โปร่งใส
สำหรับผู้ได้รับการเลือกตั้งทั้งหมด จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ต่อจาก องค์คณะตุลาการฯ ชุดเดิม ในวันที่ 11 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป และดำรงตำแหน่งจนครบวาระ 2567-2571