ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบสาวแสบหลอกขายหน้ากากอนามัยออนไลน์
ช่วงโควิดระบาดหนัก พบประวัติหลอกขายอื้อ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์, พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร เสรีบุตร รอง ผบก.ปอศ., , พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.๕ บก.ปอศ.,พ.ต.ท.ภูวเดช จุลกะเสวี, พ.ต.ท.วิวัฒน์ชัย คลื่นแก้ว, พ.ต.ท.จักรี กันธิยะ และ พ.ต.ท.พิทยา คงเจริญ รอง ผกก.๕ บก.ปอศ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.พิชญากร แตงรอด สว.กก.5 บก.ปอศ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ.
ร่วมกันจับกุม น.ส.ณัฐนันท์ฯ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชันที่ 277/2563 ลงวันที่ 28 ก.ย.2563 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
สถานที่จับกุม บริเวณริมถนนซอยลำลูกกา 69 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงสถานการณ์โควิด-2019 ระบาดหนัก ประชาชนมีความต้องการหน้ากากอนามัยจำนวนมาก ผู้ต้องหารายนี้ได้โพสต์ขายหน้ากากอนามัย หนา 4 ชั้น สามารถกรองเชื้อโรคต่างๆได้ดี ผ่านทางกลุ่มขายของในแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก ในราคากล่องละ 550 บาท จนมีผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อได้โอนเงินไปซื้อหน้ากากอนามัยกับผู้ต้องหาเป็นจำนวนมาก โดยผู้ต้องหาแจ้งว่าจะได้รับสินค้าภายใน 7 วัน ครั้นเมื่อถึงกำหนด ผู้เสียหายไม่ได้รับสินค้าและไม่สามารถติดต่อกับผู้ต้องหาได้อีก ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาศาลอาญาตลิ่งชัน ได้อนุมัติหมายจับ น.ส.ณัฐนันท์ฯ ตามหมายจับ ที่ 277/2563 ลงวันที่ 28 ก.ย.63 ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการ
ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” เพื่อจัดการตามหมายจับและดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ.ได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยในพื้นที่
จ.ปทุมธานี จึงได้นำหมายจับของศาลอาญาตลิ่งชันเข้าทำการจับกุม น.ส.ณัฐนันท์ฯ และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าพระ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สอบถามปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าช่วงสถานการณ์
โควิด-2019 ตนได้ประกอบอาชีพค้าขายสินค้าที่เป็นกระแส อาศัยช่วงสถานการณ์โควิดระบาด ได้หันมาขายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก มีลูกค้าหลายสิบรายสั่งซื้อหน้ากากอนามัยเป็นจำนวนมาก จนไม่สามารถจัดหาสินค้าได้ทัน ประกอบกับตนได้นำเงินไปลงทุนซื้อสินค้าอื่นๆ จนไม่สามารถหาเงินมาคืนผู้เสียหายได้ ท้ายที่สุดจึงได้เกิดเรื่องขึ้น
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบในสื่อสังคมออนไลน์ พบชื่อของผู้ต้องหามีประชาชนแจ้งร้องเรียนไว้เป็นจำนวนมาก โดยเรื่องที่แจ้งเป็นการหลอกขายสินค้าประเภทต่างๆ เช่น หน้ากากอนามัย ,น้ำพริกมันปู เป็นต้น
เตือนภัย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขอฝากเตือนภัยถึงประชาชน ให้ระมัดระวังการซื้อสินค้าผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยก่อนสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ควรตรวจสอบประวัติการซื้อขายของผู้โพสต์ขาย ตรวจสอบเลขบัญชีของผู้ขายก่อนว่ามีชื่ออยู่ในรายการคนโกงหรือไม่ โดยนำชื่อ-นามสกุลของผู้ขาย,เลขบัญชีธนาคาร,หมายเลขโทรศัพท์ ค้นหาในเว็บไซต์ก่อนโอนเงินทุกครั้ง ดังนี้
- https://www.blacklistseller.com/
2.https://www.chaladohn.com/