วันนี้ (2 ก.พ.67) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่าจากผลการสอบปากคำนายเอกเมื่อวานนี้ นอกรอบให้การเป็นประโยชน์ แต่ในชั้นพนักงานสอบสวนได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่เชื่อตำรวจมีหลักฐานสามารถเอาผิดได้
จากข้อมูลการสืบสวนพบว่านายเอก เป็นคนเก่งมีความสามารถ และเป็นบุคคลที่เข้าไปอยู่ในคณะกรรมในหลายโครงการ บางโครงการเป็นผู้ร่างโครงการเอง และมีคอนเนคชั่นทั้งในรัฐสภาและหน่วยงานอื่นทำให้รู้ข้อมูลเชิงลึกก่อนนำข้อมูลที่พบเข้าจ่ายการทุจริตมาข่มขู่การเรียกรับทรัพย์ภายหลัง
นอกจากกรณีการเรียกรับเงินจากอธิบดีกรมการข้าวแล้วยังพบว่านายเอก เกี่ยวข้องกลับหน่วยงานอื่นที่ถูกเรียกรับเงินในลักษณะเดียวกัน โดยจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า เนื่องจากจะมีผู้เสียหายทยอยเข้ามาแจ้งความ ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้
ในคดีการเรียกรับเงินอธิบดีกรมการข้าว ออกหมายจับไปแล้ว 4 คน ส่วนที่เหลือคาดว่าจะสามารถออกหมายจับเพิ่มได้อีก 2 ถึง 3 คน ภายในวันอังคาร 6 กุมภาพันธ์นี้ ส่วนบัญชีม้ายังอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีระยะยาว เพื่อหาความเชื่อมโยงในกลุ่มผู้เสียหายกลุ่มอื่น ๆ
สำหรับภรรยาของนายศรีสุวรรณ จรรยา จะเกี่ยวข้องในคดีเรียกรับเงินอธิบดีกรมการข้าวหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่าจากหลักฐานเบื้องต้นอาจจะเข้าข่ายเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับ เชื่อภรรยา นายศรีสุวรรณมีส่วนรู้เห็น
กรณีที่นายยศวริศ ชูกล่อม อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรครวมไทยสร้างชาติ หรือ เจ๋ง ดอกจิก ออกมาชี้แจงในงานแถลงข่าวเปิดเผยว่าเป็นผู้ประสานงาน และเป็นคนกลางในการพูดคุย แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินนั้น พล.ต.ตจรูญเกียรติ กล่าวว่าถ้อยคำในการแถลงข่าวถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
เนื่องจากเป็นการยอมรับในข้อเท็จจริงบางส่วนก็ถือว่ามีความผิดในการสนับสนุนให้เจ้าพนักงานกระทำความผิด มีการแบ่งหน้าที่ทำงานกันอย่างชัดเจน ส่วนจะรับเงินหรือไม่นั้นตำรวจมีหลักฐานในการเอาผิดได้อย่างแน่นอน
รวมถึงการระบุว่าได้มีการประสานไปยัง ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนที่จะไปพบกับอธิบดีกรมการข้าว ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ยืนยันว่าตำรวจทำตามพยานหลักฐาน หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็ดำเนินคดีทั้งหมด