คัดลอก URL แล้ว
พบหลักฐานใหม่ จากผู้นำเข้า 3 ราย เชื่อมโยงขบวนการ “หมูเถื่อน” จ่อดำเนินคดีบ่ายนี้

พบหลักฐานใหม่ จากผู้นำเข้า 3 ราย เชื่อมโยงขบวนการ “หมูเถื่อน” จ่อดำเนินคดีบ่ายนี้

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช และโฆษกหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช เปิดเผยว่า หลังจากมีการดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่ลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรเถื่อน จำนวน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่สุ่มตรวจตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 21 ตู้ ที่เป็นสินค้าตกค้าง ณ สำนักงานศุลกากรแหลมฉบัง เมื่อ 8 ธันวาคม 2566 พบว่า 1 ใน 21 ตู้ที่สุ่มตรวจมีสินค้าภายในตู้ไม่ตรงตามที่ผู้นำเข้าได้ขออนุญาตไว้ตอนนำเข้า เป็นชิ้นส่วนหมูปะปนมากับสินค้าประมงภายในตู้คอนเทนเนอร์เดียวกัน ทำให้เกิดข้อสงสัยกรณีการขออนุญาตนำเข้าสินค้าประมงในลักษณะเดียวกัน

หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราชจึงได้มอบหมายให้กรมประมงจัดตั้ง War Room ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบเอกสารจากกรมประมงและกรมปศุสัตว์ ร่วมกันดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงในเชิงลึก ใช้เวลากว่า 1 สัปดาห์ในการสุ่มตรวจสอบเอกสารประกอบการยื่นขออนุญาตนำเข้าสินค้าประมงในช่วงปี 2564-2566 โดยเริ่มสุ่มตรวจสอบเอกสารขออนุญาตนำเข้าสินค้าประมงของผู้นำเข้าที่ถูกดำเนินคดี พบการยื่นเอกสารประกอบการขออนุญาตนำเข้าสัตว์น้ำ มีการใช้เอกสารรับรองสุขอนามัยสัตว์ ซึ่งมีข้อความไม่ตรงตามข้อเท็จจริง

จากการตรวจสอบเชิงลึกพบความผิดปกติในข้อมูลเอกสาร เช่น มีการระบุหมายเลขรับรองโรงเชือดของประเทศต้นทาง และระบุเลขรับรองผู้ส่งออกเป็นโรงงานที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับสินค้าปศุสัตว์ ซึ่งจากการทวนสอบยืนยันเอกสารของหน่วยงานผู้ออกหนังสือรับรองของประเทศต้นกำเนิดสินค้า พบว่าข้อมูลหนังสือรับรองสุขอนามัยสัตว์ฉบับจริงที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบเอกสาร ไม่ตรงตามข้อมูลในเอกสารที่ผู้นำเข้าใช้ในการขออนุญาตนำเข้ากับกรมประมง เช่น เอกสารระบุชนิดเป็นปลาจวดแช่แข็งในพิกัดศุลกากร 0303 แต่ข้อมูลจากต้นทางระบุสินค้าเป็นชิ้นส่วนสุกรแช่แข็งในพิกัดศุลกากร 0203 ทำให้เชื่อได้ว่าเป็นเอกสารที่มีการปลอมแปลงเพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ในการขออนุญาตนำเข้า

จากการดำเนินงานของหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช ได้พบการกระทำความผิดที่เชื่อมโยงกับขบวนการหมูเถื่อน ขณะนี้พบมีการปลอมแปลงในลักษณะดังกล่าวแล้วจำนวน 20 ฉบับ จากผู้นำเข้า 3 ราย และอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม โดยใน 3 รายนี้อยูใน 11 รายชื่อบริษัทที่เป็นผู้ต้องหาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการอยู่ในคดีพิเศษ 161 ตู้ แต่ในการดำเนินการของหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช จะเป็นคนละคดีและคนละสำนวนกันกับดีเอสไอ ในความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ตามมาตรา 137 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) และความผิดปลอมแปลงเอกสาร มาตรา 264 ประกอบกับมาตรา 268 ซึ่งวันนี้เวลา 14.00 น. จะไปยื่นหนังสือกับผู้แทนผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อไป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง