วันที่ 2 เมษายน 2568 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) อัปเดตความคืบหน้ากรณีค้นหาผู้สูญหายจากเหตุแผ่นดินไหว อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างถล่มลงมา เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันที่ 5 ของการเกิดเหตุการณ์ขึ้น เมื่อคืนใช้วิธีการยกชิ้นปูนออกไปประมาณ 10 ชิ้น รวม 100 ตัน ทำให้เปิดช่องว่างให้กู้ภัยไปสำรวจด้านใน พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ร่าง และมีร่างที่ยังไม่สามารถนำออกมาได้อีกประมาณ 14 ร่าง และยังมีตามจุดต่างๆ ที่เริ่มส่งกลิ่นอีกหลายจุด แต่ยังไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะมีชิ้นส่วนเหล็กกีดขวางจำนวนมาก
ขณะเดียวกันกู้ภัยก็ปรับยุทธวิธีการค้นหา พยายามเข้าไปถึงปล่องลิฟต์ทั้งฝั่งเหนือและใต้ เพราะปัจจุบันเปิดปล่องลิฟต์ด้านหลังไว้ แต่ยังเข้าไปได้ไม่เยอะมาก จึงใช้อุปกรณ์หนัก ใช้แบ็คโฮลุยตัด โดยอีกประมาณ 10 เมตรจะถึงตัวปล่องลิฟต์ ทั้ง 2 ฝั่ง คือซ้ายและขวา
โดยโหมดการดำเนินการมี 2 ขั้นตอน คือ เรสคิวส์ หรือ ช่วยชีวิต และการรื้อถอน โดยสลับกันเข้าทำงานเข้าทำงานกับสุนัข K9 ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างการรื้อ และช่วยชีวิตไปด้วย
ตนเองได้คุยกับทีมงาน พบว่าประมาณบ่ายโมงที่ผ่านมา ที่เมียนมาเพิ่งเจอผู้รอดชีวิต ก็ถือว่ามีโอกาสอยู่ แต่ต้องยอมรับว่าโอกาสน้อยลง ต้องไม่โกหกตัวเอง ขณะนี้เริ่มดำเนินการเครื่องมือหนัก สลับการค้นหา ทีมช่วยชีวิตก็คอยสแตนบายอยู่ตลอด ยืนยันเป็นไปตามหลักสากล
เบื้องต้นได้คุยกับทีมนานาชาติที่มีประสบการณ์กว่า 40 ปี เผยว่าเคสนี้ เป็นเคสที่ซับซ้อน เพราะเป็นอาคารสูงถล่มลงมาครั้งเดียว เป็นคอนกรีตอีก และมีผู้สูญหายติดอยู่ในอาคารจำนวนมาก / แต่เจ้าหน้าที่ไม่ย่อท้อ ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ อาจจะไม่ถูกใจบางท่านก็ขอโทษด้วย แต่ก็เป็นการไตร่ตรองร่วมกัน ที่ทีมไทยเป็นผู้นำ เพราะรู้พื้นที่ดี และร่วมกันทีมต่างชาติ ที่ทำงานเต็มที่ตลอด เราเองก็เรียนรู้จากเขา เขาเองก็เรีนนรู้จากเรา
อีกทั้ง บ่ายที่ผ่านมาได้ให้ทีมจิตวิทยาเข้าคุยกับญาติ ๆ ที่รออยู่ศูนย์พักคอยญาติแล้ว ว่ากระบวนการใช้เครื่องมือหนักไม่ได้หยุดการค้นหา แต่เป็นการใช้เครื่องมือหนักเร่งเปิดทาง ซึ่งต้องบอกญาติก่อนที่จะรับรู้ผ่านสื่อ สำหรับการปรับวิธีการดังกล่าว
ตอนนี้ยังไม่ได้มีเดตไลน์ ว่ากี่วัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ประเมินตามข้อเท็จจริง / ส่วนเครื่องสแกน สามารถสแกนได้ 30 เมตร แต่ก็ไม่ได้แม่ยำมาก บางทีมก็ไม่ได้ใช้ แต่ใช้สุนัข K9 / มีการนั่งคุยกับคนรอดชีวิต พอจะทราบเบื้องต้นว่าพอจะมีใครอยู่ตรงไหนบ้าง
ตนเองเชื่อว่ายังมีโอกาสอยู่ หากไปคิดว่ารอดหรือไม่รอดก็จะหมดกำลังใจ หากไม่มีความหวัง เชื่อคงไม่มีใครมาทำงานอาสามสมัคร ทุกคนมีความหวัง ชีวิตต้องดำเนินไปด้วยความหวัง ตนเขื่อว่าที่ผ่านมาหากไม่มีตึกที่ถล่มนี้ กรุงเทพฯ ของเราก็แข็งแรง ที่ทำให้เห็นว่ามาตรฐานเราดี
ส่วนความกังวลที่อาคารศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ตนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะคนยังกังวลอยู่ แต่เข้าใจได้ เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่คนจะตกใจกัน
ประชาชนแจ้งมาที่ทราฟฟี่ฟองดูว์ 17,000 เรื่อง ตรวจไปเกือบหมดแล้ว ส่วนใหญ่เป็นเคสเบา และมีอีกส่วนที่สั่งการให้เอกชนตรวจตึกตัวเอง อาคาร 9 ประเภท 12,000 อาคาร ที่ต้องตรวจรายปีอยู่แล้ว แต่ย้ำให้ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง เพื่อความมั่นใจ เริ่มทยอยส่งผลมาแล้ว โดยให้เดตไลน์ 2 สัปดาห์
นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่สุกคือ รพ.ตอนเกืดเหตุสั่งสำรวจทุกโรงพยาบาบ เพราะเป็นที่ที่คนอพยพเองไม่ได้ จึงมีแนวคิดอยากติดตั้งตัววัดแรงแผ่นดินไหว ว่าทำให้เกิดแรงเท่าไหร่ ตึกอยู่ได้ไหม เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการปรับปรุงกฎหมาย แต่ขณะนั้นทางสภากรุงเทพฯ ไม่มีแผ่นดินไหว แต่ก็เข้าใจเพราะคนปกติก็คิดเหมือนกัน แต่เดี๋ยวก็จะเสนอเรื่องนี้ขึ้นไปใหม่ในครั้งหน้า เพราะหากติดตั้งจะทำให้เรารับรู้ข้อมูลได้ดีขึ้น
สำหรับสรุปยอดความคืบหน้าภารกิจกู้ภัยผู้สูญหายจากซากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินหลังใหม่พังถล่ม วันที่ 2 เมษายน -จำนวนผู้ประสบเหตุ 96 ราย // ผู้เสียชีวิต 15 ราย แบ่งเป็นผู้ชาย 8 ราย // ผู้หญิง 6 ราย // และยังไม่สามารถระบุเพศได้ 1 ราย // ผู้บาดเจ็บ 9 ราย
// ผู้สูญหาย 72 ราย