ตลอด 2 วันของการอภิปรายร่างกฎหมายงบประมาณ ปี 2567 วิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน ประเมินแล้วว่า บรรยากาศ “ราบรื่น-สร้างสรรค์” และเชื่อมั่นว่า การโหวตวันพรุ่งนี้ เสียงข้างมากจะผ่านความเห็นชอบในวาระ “รับหลักการ”
{ANCHOR}
ขณะที่นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า “พูดชัดแล้ว” งบฯ ดำเนินโครงการดิจิทัล-วอลเล็ต” คือ พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท จึงไม่ต้องเขียนไว้ในร่างกฎหมายงบประมาณ ปี 2567 และไม่ปฏิเสธการอภิปรายด้วยวาทกรรม “นักกู้ถุงเท้าสีชมพู”
ที่ไม่ปฏิเสธ ก็เพราะว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เสร็จ ก็ดึงขากางเกง..โชว์สีถุงเท้าที่ใส่ พร้อมกับระบุว่า “ใส่มาให้ผู้อภิปรายดู..ว่าสีชมพูไหม”
ก่อนจะอธิบายว่า การอภิปรายในสภาฯ มีทั้งการสื่อสารด้วยเจตนารมณ์และวาทกรรม แต่ภาพรวม ต่างก็ต้องการนำไปปรับปรุง-แก้ไขร่างกฎหมายงบประมาณ ในวาระ 2 และ 3 ซึ่งการตั้งข้อสังเกตว่า “เป็ดง่อย” หรือ “นักกู้ถุงเท้าสีชมพู” ก็ไม่สำคัญเท่ากับการเทียบเคียงข้อเท็จจริง เพราะ รัฐบาล 1 ปี อาจทำได้มากกว่าที่อยู่มาแล้ว 4 ปี
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าไม่เขียนงบฯ เพื่อดำเนินโครงการดิจิทัล-วอลล็อต ไว้ในร่างกฎหมายงบฯ เพราะจะออกเป็น “พ.ร.บ.” เงินกู้ 5 แสนล้านบาท /ซึ่งเวลานี้ รอ “กฤษฎีกา” แจ้งความถูกต้องเรื่องข้อกฎหมาย และการกู้..ก็แทบจะกู้กันทุกรัฐบาล /แต่สำคัญว่า รัฐบาลไหน กู้แล้วทำประโยชน์ เพื่อประชาชนและประเทศชาติมากกว่ากัน
และผู้อภิปรายฯ ตั้งข้อสังเกตว่า “นักกู้ถุงเท้าสีชมพู” ก็คือนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ สส.พรรคประชาธิปัตย์ ล่าสุดออกมาเตือนนายกรัฐมนตรี ว่าอย่าปากไว โดยเฉพาะเรื่องข้อมูล อาจคลาดเคลื่อนได้ และหากจะเทียบผลงาน ก็ยืนยันได้ว่า ในอดีตถือว่าเป็นยุคที่ทำเรื่องเปิดเขตการค้าเสรี หรือ FTA ได้มากที่สุด
ขณะที่นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม รองประธานวิปรัฐบาล บอกว่า บรรยากาศการอภิปราย-พิจารณาร่างกฎหมายงบฯ ราบรื่นและสร้างสรรค์ ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ เมื่อเทียบกับสภาฯ ชุดก่อน หรือยุค 3ป.
และนายครูมานิตย์ ไม่ปฏิเสธที่ถูกมองว่า เป็นองครักษ์พิทักษ์นายทักษิณ เพราะทำงานอยู่กับพรรคมานาน และเชื่อว่า นายทักษิณ ถูกกลั่นแกล้ง ก่อนจะชี้ว่า สภาฯ แยกแยะได้ โดยเฉพาะ สส.รุ่นใหม่ ที่ต่างจาก สส.อาวุโส