ตำรวจนครบาลเร่งหาแรงจูงใจและปมความขัดแย้งที่แท้จริงจากเหตุการณ์ รองสารวัตร สอบสวน สน.หัวหมาก ยิงนักธุรกิจบนทางด่วนเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา
เบื้องต้นพบทั้งการปัญหาหนี้สิน รวมถึงกรณีที่ตำรวจรับงานนอก คุ้มกันนักธุรกิจ และ ปัญหาแอบอ้างเรื่องวิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่ง
ภาพจากกล้องวงจรปิดบนทางด่วน บันทึกเหตุการณ์รถตู้สีดำ ซึ่งมี ร้อยตำรวจโทณรงค์วัส รองสารวัตรสอบสวน สน.หัวหมาก เป็นคนขับ
ในรถมีนายกฤษฏิ์ อายุ 30 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นั่งมาด้วยกัน
ในภาพจะเห็นรถตู้ขับชิดขอบทางด่วนอย่างผิดปกติ
ไม่กี่นาทีต่อมา เห็นภาพชายคน 2 คน ลงจากรถ คล้ายเกิดการฉุดกระชากลงจากรถตู้
มีพยานเจ้าหน้าที่ทางด่วนเห็นเหตุการณ์ ระบุว่า หลังจากรถตู้ขับออกไป ไม่นานก็ขับกลับมา แล้วคนก่อเหตุ ใช้ปืนยิงซ้ำไปที่ผู้บาดเจ็บ จนเสียชีวิต
ขณะที่คำให้การ ผู้ก่อเหตุอ้างเหตุผลว่า ที่ต้องวนรถกลับมาอีกครั้ง เพราะทำโทรศัพท์หล่นไว้ และเห็นว่านักธุรกิจยังไม่เสียชีวิต จึงขู่บังคับให้โอนเงิน 20 ล้านบาท แต่เมื่อนักธุรกิจไม่ตกลง จึงยิงซ้ำจนกระทั่งเสียชีวิต
หลังจากเกิดเหตุ ร้อยตำรวจโทณรงค์วัส ถูกควบคุมตัวได้ที่โรงแรมย่านดอนเมือง
ถูกนำตัวไปสอบสวน ตลอดทั้งวัน กว่า 12 ชั่วโมง
ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่าเป็นคนยิงนักธุรกิจ อ้างถึงความสัมพันธ์ว่า
รู้จักกันตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ต่อมาถูกชักชวนไปทำงานพิเศษ เป็นทั้งคนขับรถยนต์ส่วนตัวในช่วงนอกเวลาราชการ และทำหน้าที่คุ้มกัน หรือ รปภ.ส่วนตัว แลกกับค่าจ้างวันละ 1,000 บาท
ร้อยตำรวจโทณรงค์วัส อ้างถึงในคำให้การ ว่า นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายนี้ ให้คำมั่นสัญญาว่า จะช่วยจัดการปัญหาหนี้สินที่เป็นหนี้ธนาคารซึ่งกู้เงินมาทำธุรกิจ 2 ล้านบาทแต่ขาดทุน นอกจากนั้นอ้างว่า นักธุรกิจรับปากอีกว่าจะช่วยเหลือ เรื่องวิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่ง จากงานสอบสวนไปฝ่ายสืบสวน
ขณะนี้ ตำรวจแจ้งข้อหา ร้อยตำรวจโทณรงค์วัส ว่า เจตนาฆ่าผู้อื่น และมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้
ขณะเดียวกันคำให้การของผู้ต้องหาพนักงานสอบสวนยังไม่เชื่อทั้งหมด เพราะมีข้อสงสัย ว่า ในคืนวันเกิดเหตุ ทั้ง 2 คน ไปทำงานอะไรมาก่อนหน้านี้ จนกระทั่งมีปากเสียงในรถยนต์
นอกจากนั้นยังมีปมความขัดแย้ง ทั้งหนี้สิน และค่าจ้างตามทำให้การว่าจริงหรือไม่