วันนี้ 20 ธันวาคม 2566 ศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่เอกสารข่าวเกี่ยวกับการไต่สวนคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยว่า สมาชิกภาพ สส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบกับมาตรา 98 (3) หรือไม่ โดย กกต.อ้างถึงการถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดใดอยู่ในวันสมัครรับเลือกตั้ง สส.บัญชีรายชื่อ
ในวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้ไต่สวนพยาน 3 ปาก ประกอบไปด้วย นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.พรรคก้าวไกล และนายคิมห์ สิริทวีชัย โดยพยานทั้ง 3 ปาก ได้ตอบข้อซักถามของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและของคู่กรณี คดีเป็นอันเสร็จสิ้นการไต่สวนและศาลนัดฟังคำวินิจฉัยในวันพุธที่ 24 ม.ค.2567 เวลา 14.00 น.
ขณะเดียวกันวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญ อภิปรายเตรียมการไต่สวนคำร้องนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยว่าการกระทำของนายพิธา ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา และพรรคก้าวไกล โดยเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา เพื่อยกเลิกมาตรา 112 มาใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้งและยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่ โดยศาลนัดไต่สวนในวันจันทร์ที่ 25 ธ.ค.2566 เวลา 09.30 น.
มีรายงานว่า ศาลเชิญคู่ความผู้ร้องและผู้ถูกร้องมาเข้าสู่กระบวนการไต่สวน ซึ่งตามคำร้อง ผู้ร้องขอให้ยกเลิกนโยบายหาเสียงดังกล่าวเท่านั้น ตามคำร้องดังกล่าวไม่มีประเด็นการพิจารณายุบพรรค ซึ่งศาลจะพิจารณาเพียงว่าการเสนอนโยบายดังกล่าวนั้นผิดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 49 หรือไม่ หากไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญก็ถือเป็นการสิ้นสุด หากขัดต่อรัฐธรรมนูญก็เป็นขั้นตอนที่หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบจะพิจารณาดำเนินการฟ้องยุบพรรคต่อไป โดยศาลจะขอให้ผู้เชี่ยวชาญทำความเห็นมายังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาประกอบ ส่วนพยานที่เชิญมาเป็นคู่กรณีในคำร้อง